“ครูปรีชา” พร้อมเจ๊ขายหวยเข้าให้ปากคำกองปราบ ปมหลักฐานสำคัญคดีหวย 30 ล้าน หลุดเข้าชั้นศาล

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 สิงหาคม ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) ครูปรีชา ใคร่ครวญ และ นายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความ พร้อมนางปนัญชยา สุขพูล หรือ เจ๊เกียว,นางพัชริดา พรมตา หรือ เจ๊พัช สองแม่ค้าล็อตเตอร์รี่ย่านวัดไชยชุมพลชนะสงคราม จ.กาญจนบุรี เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. กรณีเอกสารสำคัญในคดีล็อตเตอร์รี่ 30 ล้านบาท ถูกเผยแพร่จนขึ้นสู่ชั้นศาล ขณะที่เจ๊เกียว และเจ๊พัช เข้ามาให้ปากคำเกี่ยวกับคดีเพิ่มเติมในฐานะพยาน

นายวรยุทธ กล่าวว่า ที่เดินทางมาวันนี้ มี 2 ประเด็นคือ 1.ครูปรีชาเดินทางมาในฐานะพยาน กรณีที่เคยไปแจ้งเรื่องไว้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องสำนวนในคดีของกองปราบปรามนี้ที่หลุดรอดออกไปถึงชั้นพิจารณาคดีชั้นศาล และ 2.ทั้งสองเจ๊ มาในฐานะพยานกรณีหมวดจรูญที่เป็นผู้เสียหาย ได้แจ้งความต่อสองเจ๊ว่าแจ้งความเท็จ โดยทางเราจะสอบถามพนักงานสอบสวนว่า หมวดจรูญ ซื้อหวยชุดนี้มาจากใคร ที่ไหนอย่างไร เท่าไหร่ สอบหาที่มาไป ให้เกิดความชัดเจนการกระทำผิดซึ่งในเรื่องของสำนวนคดีที่หลุดรอดไปนั้น ทางเราไม่เคยขอมา โดยบุคคลที่จะขอพยานหลักฐานมาได้ ต้องเป็นผู้มีส่วนได้เสีย หรือเจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้น ซึ่งทางหน่วยงานที่ถูกกล่าวอ้างถึงก็ปฎิเสธไม่เคยส่งมอบพยานหลักฐานดังกล่าวไปให้ผู้ใด หากจะส่งก็ต้องเซ็นอนุมัติ ซึ่งทางเราก็จะสอบถามพยานในชั้นที่พนักงานสอบสวนสืบพยานแล้ว อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้มองว่าการกระทำของฝ่ายจำเลย มีเจตนาที่ต้องการจะถอนเงินทั้งหมดโดยหาเหตุมาตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน ปี 2560 แต่ไม่มีช่องทาง และตอนนี้ได้กล่าวอ้างถึงเลขบัญชีของอีกฝ่าย เพราะปัจจุบันมีคำสั่งศาลออกมาแล้วหากถอนเงินก็จะดูมีพิรุธ

Advertisement

ครูปรีชา กล่าวว่า ประเด็นเอกสารหลักฐานข้อมูลการใช้โทรศัพท์ตน ที่หลุดไปถึงมือหมวดจรูญ นั้นเป็นเรื่องสิทธิส่วนตัวบุคคลของตนเอง ซึ่งตนได้เคยขอมาจากค่ายโทรศัพท์มือถือแห่งหนึ่ง แต่กลับหลุดไปยังมือของจำเลยซึ่งทางทนายความฝั่งเขาเอง ไปโพสต์เรื่องราวหน้าศาลจังหวัดกาญจนบุรีว่า “เพื่อความบริสุทธิ์โปร่งใส เป็นคนดี” แต่ไฉนจึงนำข้อมูลสัญญาณโทรศัพท์ตนไปเป็นหลักฐานในชั้นศาล ตนเชื่อว่าสำนวนเหล่านี้ต้องหลุดไปจากมือตำรวจ เพราะตนเคยไปขอมาจากบริษัทนี้แล้ว แต่ไม่ได้รับ เนื่องจากตนจะต้องทำเรื่องผ่านทนายความหรือพนักงานสอบสวน เพราะตอนนั้นตนเอาไปแต่บัตรประชาชนจึงไม่ได้ทำอะไร เพิ่งจะมาได้เอกสารนี้ตอนไต่สวนมูลฟ้อง และทนายตั้มเอามาเป็นหลักฐานในชั้นศาลทั้งหมด ซึ่งยังปรากฎลายเซ็นต์ของจำเลย วันนี้พนักงานสอบสวนจึงมีหนังสือเชิญตนมาให้ปากคำเพิ่มเติมในฐานะผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ โดยทางพวกตนใช้สิทธิ์ตามกฎหมายทุกข้อ สู้ตามความจริง ส่วนที่ตนทำเรื่องขอระงับการถอนเงินออกจากบัญชีกับธนาคาร มองว่าไม่น่าจะเป็นการละเมิดคำสั่งของศาลแพ่งที่ให้ถอนอายัดเงินรางวัลในบัญชี แต่เป็นสิทธิ์ที่ตนสามารถทำได้ตามกฎหมาย สำหรับเรื่องที่ตนถูกกล่าวหาว่า เผยแพร่เลขที่บัญชีและเบอร์โทรศัพท์ของร.ต.ท.จรูญ นั้น ยืนว่าตนเองไม่ได้เป็นคนเผยแพร่ แต่มีบุคคลอื่นเป็นคนเปิดเผยต่อสาธารณชน อีกทั้งมองว่าเลขบัญชีและเบอร์โทรศัพท์ไม่น่าจะเป็นความลับ แต่สามารถเปิดเผยทางธุรกิจได้ เชื่อว่าฝ่ายตรงข้ามน่าจะใช้เป็นข้ออ้างในการปิดบัญชีและขอถอนเงินรางวัลทั้งหมดออกจากธนาคาร และจนถึงทุกวันนี้ ตนยังยืนยันว่าล็อตเตอร์รี่ 30 ล้านบาท ก็ยังเป็นของตน ทั้งนี้ สำหรับข้อมูลต่างๆ ที่หลุดรอดออกมานั้น ยืนยันว่าตัวเองไม่ได้เปิด คนเปิดน่าจะรู้ว่าเป็นใคร

นางปนัญชยา หรือ เจ๊เกียว กล่าวว่า หาก ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ หมวดจรูญ อดีตข้าราชการตำรวจ สภ.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี มั่นใจว่าล็อตเตอร์รี่นั้นเป็นของตัวเองจริง ก็ให้ไปถอนเงินเลย ซึ่งล็อตเตอร์รี่ชุดนี้เป็นของเจ๊พัช ที่เจ๊บ้าบิ่นขายให้ครูปรีชา ส่วนตนเองนั้นเป็นพยานที่เห็นการซื้อขาย ซึ่งตนเป็นแม่ค้าในย่านนั้นมาหลายสิบปี ยืนยันว่า ที่ชี้จุดทำแผนย่านวัดไชยชุมพลชนะสงคราม นั้นไม่ใช่จุดที่ซื้อขายหวยจริง ตนห้ามความคิดของคนในโลกโซเชียลไม่ได้ว่าหวยชุดนั้นเป็นของหมวดจรูญ ตนเป็นแม่ค้าจะมีส่วนได้เสียอย่างไร หมวดจรูญรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว ว่าตัวเองซื้อหรือไม่ได้ซื้อ ใครทำอะไรก็รู้อยู่ นรกอยู่ในใจ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image