เส้นทางทารุณ ‘เต่า’สัตว์มงคล

ย้อนกลับไปวันที่ 15 มีนาคม 2556 พนักงานสอบสวนได้ส่งเต่าจากมาดากัสการ์มาให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ดูแล ระหว่างที่คดียังไม่สิ้นสุด เป็นเต่า “ยูนิฟอร่า” 54 ตัว และเต่า “เรดิเอต้า” หรือเต่าดาวรัศมี 72 ตัว ทั้งหมด ถูกเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร สกัดจับได้ ขณะที่มีการลักลอบนำเข้ามาที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ตามข้อตกลงระหว่างกรมอุทยานแห่งชาติ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการดูแลของกลางที่มีชีวิตนั้น เป็นหน้าที่ของกรมอุทยานฯ

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสัตว์ป่า และหลังจากคดีสิ้นสุดแล้ว สัตว์ของกลางจะตกเป็นของแผ่นดิน กรมอุทยานฯก็ต้องรับหน้าที่ดูแลสัตว์ของกลางนั้นอยู่ดี

ดูเหมือนว่า เต่า จะเป็นสัตว์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในการลักลอบขนส่งซื้อขายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเต่าที่มีลวดลายบนกระดองแปลกๆ สวยๆ

Advertisement

เต่าจากมาดากัสการ์ ทั้งสวย ทั้งแปลกและหายาก จึงเป็นที่หมายตาของบรรดาเศรษฐี นักสะสม นิยมสัตว์แปลกอย่างมาก

ส่วนเต่ายูนิฟอร่าเป็นสัตว์ที่อยู่ในบัญชีที่ 1 ของอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (ไซเตส) ในถิ่นที่อยู่อาศัยธรรมชาติในป่าละเมาะคือใกล้อ่าว Baly Bay ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ ถูกคุกคามโดยเผาไหม้เพื่อนำที่ดินไปปลูกพืช อีกทั้งถูกล่าเป็นอาหาร และถูกจับไปขายในตลาดสัตว์เลี้ยงทั่วโลก

จัดเป็นเต่าบกหายากที่สุดของโลก

Advertisement

ส่วนเต่าเรดิเอต้า มักจะพบในพุ่มไม้หนามทางตะวันตกเฉียงใต้ แม้มี 6.3 ล้านตัว แต่ก็ลดลงเรื่อยๆ ถึงร้อยละ 47 ของที่มีอยู่เดิมเมื่อ 11 ปีที่แล้ว เคยถูกจัดอยู่จำพวกเต่าที่มีประชากรมากที่สุดในโลก มีประชากรหลายล้านตัว ปัจจุบันถูกจัดอยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง (Critically endangered) ใน IUCN Red Data เนื่องจากถูกล่าอย่างหนัก

เต่าเรดิเอต้ายังถูกคาดหมายว่าอาจสูญพันธุ์ในอีก 20 ปี เนื่องจากปัญหาขัดแย้งทางการเมืองในมาดากัสการ์ ทำให้เกิดการล่าเต่าชนิดนี้อย่างน้อย 1,000 ตัว ต่อสัปดาห์ เนื่องจากเป็นเต่าที่มีกระดองสวยงาม เป็นที่ต้องตาต้องใจ ของนักเลงนิยมสัตว์แปลก ทั้งในตลาดมืดและตลาดสว่างยิ่งนัก

ที่น่าเวทนาและอเนจอนาถอย่างยิ่งสำหรับสภาพของบรรดาเต่าที่ขึ้นชื่อว่าหายาก สวยงามและแพงที่สุดในโลกอย่างยูนิฟอร่า ถูกจับได้ที่ด่านศุลกากร สนามบินสุวรรณภูมินั้น ทั้ง 54 ตัว ถูกรัดแน่นด้วยแผ่นฟิล์มใสที่ใช้สำหรับถนอมอาหาร แล้วอัดแน่นอยู่ในกระเป๋าเดินทาง ระยะทางจากมาดากัสการ์มาถึงกรุงเทพฯ ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง คงจะทรมานอย่างแสนสาหัส สำหรับชีวิต

น้อยๆ ของสัตว์กระดองแข็งที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีอายุยืนที่สุดในโลกอย่างเต่าเหล่านี้

และพบว่ายูนิฟอร่าที่มีค่ามหาศาล 54 ตัว ตายไปอย่างน่าเวทนา 48 ตัว เหลือเจ้าตัวที่ทรหดจริงๆ เพียง 6 ตัว เป็นยูนิฟอร่าขนาด 12 นิ้ว 1 ตัว มูลค่าตัวละเฉียด 3 ล้านบาท และยูนิฟอร่าขนาด 6 นิ้วอีก 5 ตัว มูลค่าตัวละ 6 แสนบาท ส่วนเรดิเอต้าหรือเต่าดาวรัศมี ที่มีมูลค่าตัวละ 5-6 หมื่นบาทนั้น รอดหมดทั้ง 72 ตัว

กรมอุทยานแห่งชาติฯนำเต่าที่รอดตายจากการเดินทางทรหดไปฟูมฟักไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงนกน้ำบางพระ ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี แต่แล้วเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2559 นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ ได้รับแจ้งจากนายทรงกลด ภู่ทอง หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงฯ บางพระ ว่า เต่าราคาแพงทั้งหมดหายไปรวม 72 ตัว

ประเทศไทยกลายเป็นทางผ่านและศูนย์กลางขายเต่าสองชนิดนี้ มีประวัติการจับกุมที่ท่าอากาศยานทุกปี และยังจับกุมผู้ค้าตามอินเตอร์เน็ตและตลาดจตุจักรได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ สัตว์ต่างประเทศหน้าตาแปลกๆ เป็นที่ต้องการของคนมีเงิน ในกลุ่มนักสะสมของหายาก ยูนิฟอร่า นอกจากสวยงามหายาก และเป็นสัตว์จากประเทศไกลโพ้นทะเลอย่างมาดากัสการ์แล้ว เต่ายังขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์มงคล มีอายุยืน เชื่อกันว่า ใครได้ครอบครอง จะช่วยเสริมบารมี และมีอายุยืนเหมือนเต่าอีกด้วย

การซื้อขายเต่ายูนิฟอร่า ราคาสูงและสูงปรี๊ดอยู่ที่เท่าไรจะวัดกันที่ขนาด นักเลงเต่าจะวัดกระดองเป็นเซนติเมตร เนื่องจากกระดองเต่ายูนิฟอร่ามีความสวยงาม ใช้เวลานานในการเติบโต เต่ายูนิฟอร่าตัวผู้จะมีกระดองใหญ่สุดคือ 17.5 นิ้ว ส่วนเต่าตัวเมียมีกระดองใหญ่สุดขนาด 15 นิ้ว ซื้อขายกัน 12 นิ้วหรือ 1 ฟุต ราคาประมาณ 1 ล้านบาทขึ้นไป

ถ้ามีลวดลายสวยงามก็จะยิ่งแพง และยิ่งอายุมากลายก็จะเด่นและแพงยิ่งขึ้น ซื้อกันถึงเซนติเมตรละ 2 แสนบาท

จากรายงานล่าสุดเกาะมาดากัสการ์เหลือเต่ายูนิฟอร่าในธรรมชาติเพียง 100 กว่าตัวเท่านั้น จึงไม่ต้องถามว่า เต่าตัวนี้เป็นที่ต้องการของท้องตลาดมากแค่ไหน

ปัจจุบันเต่าของกลางที่กรมอุทยานแห่งชาติดูแลอยู่มีประมาณ 1,000 ตัว เมื่อคดีสิ้นสุดแล้ว ไม่แน่ใจว่าประเทศต้นทางจะรับคืนหรือไม่ จะมีก็เพียงยูนิฟอร่า ราว 20 ตัวเท่านั้น ที่มาดากัสการ์ ประเทศต้นทาง เคยติดต่อขอรับคืน

มีรายงานข่าวแจ้งว่า ในรอบ 10 ปี ที่ผ่านมา “เต่า” ที่มีการจับกุมมากที่สุดคือ “เต่าหับ” ถูกลักลอบผ่านอินโดนีเซีย มาเลเซีย มาทางภาคใต้ของไทย มักจับได้พร้อมตัวนิ่ม ขนผ่านไปยังประเทศจีน หรือเวียดนาม เนื่องจากจีนนิยมกินตัวนิ่มรวมถึงเต่าด้วย รองมาเป็นเต่าดาวอินเดีย เต่าดำแฮมมิลตัน เต่าจมูกหมู มาจากบังกลาเทศ ปากีสถาน และอินเดีย และเต่าดารารัศมี หรือ เต่าราเดียตา มาจากมาดากัสการ์ ตามลำดับ

นี่คือเส้นทางของ “เต่า” จากต้นทางมาดากัสการ์ในทวีปแอฟริกา ก่อนจะมาเผชิญชะตากรรมสุดอนาถในประเทศไทย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image