ผู้เขียน | โอภาส เพ็งเจริญ |
---|
คุณจำนูญกับคุณจำเริ ร่วมกันเอายาแก้ปวดมาบด-ผสมสี แล้วตอกเม็ดใหม่ ตอกยี่ห้อปลอมเป็นยาบ้าทดลองเสพดู ที่เหลือนำไปขายรายได้ดี แต่ต่อมาถูกจับกุมได้ ถูกส่งฟ้อง
พนักงานอัยการฟ้อง ขอให้ลงโทษทั้งสองตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ข้อหาร่วมกันผลิตเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่าย และร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และข้อหาเสพเมทแอมเฟตามีน
ทั้งสองให้การปฏิเสธสองข้อหาแรก แต่รับข้อหาเสพเมทแอมเฟตามีน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ทั้งสองมีความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ฐานร่วมกันผลิตเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่าย และร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันผลิตเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่าย ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดให้ประหารชีวิต
ทางนำสืบของทั้งสองเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงให้ลงโทษจำคุกทั้งสองตลอดชีวิต
ส่วนฐานร่วมกันเสพเมทแอมเฟตามีน จำคุกอีกคนละ 1 ปี ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงลงโทษจำคุกคนละ 6 เดือน แต่เมื่อลงโทษจำคุกตลอดชีวิตแล้ว จึงไม่อาจนำโทษกระทงหลังมาบวกกับกระทงแรกได้ ทั้งสองอุทธรณ์ แต่ศาลชั้นอุทธรณ์พิพากษายืน
ทั้งสองฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์บรรยายฟ้องว่า ทั้งสองร่วมกันผลิตเมทแอมเฟตามีน ด้วยวิธีการคือ นำเอายาแก้ปวดทั่วไปมาบดให้ละเอียดกับครก และผสมกับสีผสมอาหารสีส้ม จากนั้นจึงนำมาบดอัดเป็นเม็ดแล้วใช้เหล็กแท่งที่ด้านหัวสลักอักษรดับ WY ตอกอัดเข้าไปให้แน่นและออกมาเป็นเม็ด ทั้งนี้ ทั้งสองได้ร่วมกันผลิตเพื่อจำหน่าย และได้เสพยาที่ได้ผลิตดังกล่าว
ฟ้องมิได้บรรยายให้เห็นว่า สิ่งที่ทั้งสองร่วมกันผลิตมีส่วนประกอบของเมทแอมเฟตามีน
เมื่อฟ้องบรรยายว่า ทั้งสองนำเอายาแก้ปวดทั่วไปมาบดและผสมกับสีผสมอาหาร ฟ้องจึงมิได้บรรยายถึงการกระทำอันเป็นความผิดต่อกฎหมาย จึงเป็นฟ้องที่ไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5)
แม้ทั้งสองให้การรับสารภาพในข้อหาเสพเมทแอมเฟตามีนก็ลงโทษในความผิดดังกล่าวมิได้ เนื่องจากฟ้องในส่วนผลิตไม่ชอบเสียแล้ว ฟ้องในส่วนเสพเมทแอมเฟตามีนที่ได้ผลิตดังกล่าวจึงไม่ชอบไปด้วย
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
(เทียบคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6364/2549)
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา 158 ฟ้องต้องทำเป็นหนังสือ และมี
(5) การกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด ข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้นๆ อีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี