แพทยสภาคาด 3 เดือนรู้ผล “ใบรับรองแพทย์” “ธัมมชโย” มีมูลผิดจริง-ไม่จริง

เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน  ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข  ศ.นพ.สมศักดิ์  โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา  กล่าวก่อนการประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ซึ่งมีวาระเกี่ยวกับการตั้งอนุกรรมการจริยธรรมชุดพิเศษตรวจสอบข้อเท็จจริงการออกใบรับรองแพทย์อาการอาพาธของพระเทพญาณมหามุนีหรือพระธัมมชโย หลังจากมีการร้องเรียนต่อแพทยสภาให้ตรวจสอบใบรับรองแพทย์เป็นเท็จหรือไม่ ว่า  อนุกรรมการจริยธรรมฯจะเชิญแพทย์ที่ถูกร้องเรียนเข้ามาให้ข้อมูล และจะเรียกข้อมูลเอกสารหลักฐานการตรวจพระธัมมชโยทั้งผลเลือด ผลอัลตราซาวด์ และผลเอ็กซเรย์ จากคลินิกสหรัตนเวช และแพทย์ที่ออกใบรับรงแพทย์  ซึ่งจะทำให้สามารถบอกได้ว่าคนไข้มีอาการป่วยจริงตามที่มีการระบุในใบรับรองแพทย์หรือไม่ แพทยสภาไม่จำเป็นต้องเข้าไปตรวจคนไข้เอง

ศ.นพ.สมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่วัดพระธรรมกายโดยร.ท.นพ.ชูชัย พรพัฒนาพันธุ์ในฐานะแพทย์ผู้ให้การรักษาพระธัมมชโยยื่นเรื่องให้แพทยสภาส่งแพทย์ที่เป็นกลางเข้าไปตรวจวินิจอาการอาพาธของพระธัมมชโยและแพทยสภารับเรื่องจะส่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจวินิจฉัยแต่มีเงื่อนไขว่าต้องได้รับหนังสือยินยอมนั้น  ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2559 ร.ท.นพ.ชูชัยได้ส่งหนังสือมายังแพทยสภา  โดยระบุว่าแพทยสภาไม่ต้องส่งแพทย์เข้าไปตรวจอาการอาพาธพระธัมมชโยแล้ว ให้เหตุผล  2 ประการ คือ กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ การตรวจวินิจฉัยของแพทย์คนกลางจากแพทยสภาจะไม่มีผลต่อรูปคดี  เจ้าหน้าที่ไม่รับฟัง  และ 2.เพื่อให้เป็นการสร้างความกดดันให้เกิดกับแพทยสภา

นพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์ เลขาธิการแพทยสภา กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติ คือ อนุกรรมการเฉพาะกิจตรวจสอบประเด็นใบรับรองแพทย์ โดยมีตนเป็นประธาน และมีกรรมการอื่นๆอีก 3 คน คือ พญ.ชัญวลี ศรีสุโข นพ.เกรียง อัศวรุ่งนิรันดร์  นพ.วิสุทธิ์ ลัจฉเสวี ร่วมเป็นอนุกรรมการชุดดังกล่าว คาดว่าจะประชุมหารือในสัปดาห์หน้า ก่อนจะเรียกแพทย์ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบว่าใบรับรองแพทย์มีมูลความผิดหรือไม่ อย่างน้อย 3-4 เดือน ซึ่งจากขั้นตอนปกติใช้เวลาถึง 6 เดือน หากมีมูลจริงก็ต้องส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการแพทยสภา เพื่อตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงอีก ซึ่งใช้เวลาอีก 6 เดือน ซึ่งการดำเนินงานพยายามทำให้เร็วที่สุด แต่ก็ต้องละเอียดถี่ถ้วน เพื่อชอบเป็นธรรมอย่างแท้จริง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image