เอาจริง ! ปลัดสธ.เข้ม ไม่สวมหมวกกันน็อกห้ามเข้ากระทรวง หลังอุบัติเหตุซ้ำซาก

เมื่อวันที่ 28 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กำหนดให้ปัญหาบาดเจ็บและเสียชีวิตจากจราจรเป็นวาระสำคัญตลอดปี 2559 โดยตั้งเป้าลดเสียชีวิตจากจราจรไม่เกิน 16 คนต่อประชากรแสนคน โดยเริ่มจากภายในกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เป็นตัวอย่าง เห็นได้จากเมื่อต้นปี 2558 ที่ผ่านมา ออกประกาศให้กระทรวงเป็นพื้นที่บังคับต้องสวมหมวกนิรภัย 100% ไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่สวมหมวกนิรภัยเข้ามาในพื้นที่ของกระทรวงอย่างเด็ดขาด โดยชูนโยบาย “ทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน 2554-2563” ทั้งนี้ แม้จะมีนโยบายเข้มงวด แต่ปรากฏว่า ยังพบผู้ไม่สวมหมวกนิรภัยเข้ามาในพื้นที่กระทรวงอยู่เสมอ โดยเฉพาะบุคลากรและข้าราชการภายในกระทรวงฯหลายคนก็ไม่นิยมสวมหมวกนิรภัยเช่นกัน

ล่าสุดเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถยนต์ 2 ครั้งบริเวณเดียวกัน ตรง สี่แยกกระทรวงสาธารณสุขซอย 8 ในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 18.30 น. รถจักรยานยนต์ชนกับรถยนต์ โดยคนขับรถจักรยานยนต์ไม่ได้สวมหมวกนิรภัย ส่งผลให้ศีรษะกระแทกพื้น จนศีรษะแตกเลือดออกค่อนข้างมากและนำตัวส่งโรงพยาบาลในเวลาต่อมา และครั้งที่ 2 เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น.ของวันที่ 28 มกราคม ได้เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิก สีขาว หมายเลขทะเบียน 1 กม 983 กรุงเทพฯ ชนกับรถยนต์มาสด้าสีขาว หมายเลขทะเบียน ฆฌ 1339กรุงเทพฯ ที่บริเวณสี่แยกกระทรวงสาธารณสุขซอย 8 มีผู้บาดเจ็บ 1 คน เป็นผู้หญิงคนขับรถจักรยานยนต์มีแผลแตกที่บริเวณศีรษะด้านขวา และใบหน้าด้านขวาถลอก ผู้ป่วยสามารถลืมตาและรับรู้ได้ แต่ไม่สามารถสื่อสารได้เนื่องจากอยู่ในอาการตกใจ โดยมีบุคลากรสาธารณสุขให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนที่รถสมาคมกู้ภัยนนทบุรีมานำตัวส่งโรงพยาบาลต่อไป

นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า ที่ผ่านมา สธ.ได้ออกประกาศเข้มงวดในการขับขี่ยานพาหนะมาตลอด โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ไม่ยอมสวมหมวกนิรภัย รวมทั้งคนซ้อนท้าย ซึ่งหลายคนทำงานในกระทรวงฯก็ไม่ยอมสวมหมวกอีก จากนี้ตนจะสั่งการให้ผู้ที่รับผิดชอบเข้มงวดมากขึ้น โดยหากใครไม่สวมหมวกนิรภัยจะไม่อนุญาตให้เข้ามาภายในกระทรวง ซึ่งจริงๆ มาตรการนี้ทำมานานแล้ว เพียงแต่ระยะหลังอาจหย่อนยาน ขณะเดียวกันข้าราชการภายในกระทรวงฯบางคนก็ไม่ยอมทำ ซึ่งจากนี้จะไม่ได้อีกเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image