ดีเอสไอเดินหน้าปฏิบัติตามหมายจับ ‘พระธัมมชโย’ หลังสรุปสำนวนฟ้องส่งอัยการ

“อธิบดีดีเอสไอ” เผย “วัดพระธรรมกาย” ไม่ได้ติดใจการปฏิบัติหน้าที่ของ พงส. แต่ติดใจเนื้อหารายละเอียดการสอบสวน ระบุ เจรจาบ่ายวันนี้ ไม่ได้มอบอะไรพิเศษ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 มิถุนายน ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีดีเอสไอ และพ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ คดีที่ 27/2559 ในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร ร่วมกันแถลงภายหลังการประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งมีที่ปรึกษาคดีพิเศษ และพนักงานอัยการร่วมประชุมด้วย ว่า พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้สรุปสำนวนคดีที่ 27/2559 ส่งพนักงานอัยการเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีทั้งหมด 13 แฟ้ม กว่า 10,000 หน้ากระดาษ เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา และพนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษก็ได้รับสำนวนแล้ว

พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า อีกเรื่องคือเรื่องของชุดเจรจาในประเด็นที่ดีเอสไอต้องการให้พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร ให้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ซึ่งมีด้วยกัน 3 ฝ่าย คือ ดีเอสไอ พระเทพรัตนสุธี เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี และตัวแทนวัดพระธรรมกายนั้น ในวันนี้ทางดีเอสไอก็ยังเดินทางไปเจรจาตามที่มีการนัดหมายไว้เหมือนเดิม ในเวลา 14.00 น. ซึ่งเป็นอีกกระบวนการหนึ่ง ส่วนข้อสรุปนั้น ก็ขอให้รอผลการเจรจา ไม่อยากคาดเดาอะไรไปก่อนที่การเจรจาจะเสร็จสิ้น อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มอบหมายอะไรให้คณะเจรจาเป็นประเด็นพิเศษ

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวต่อว่า ส่วนการดำเนินการตามหมายจับ ดีเอสไอยังต้องดำเนินการตามหมายจับ เพราะเจ้าพนักงานต้องปฏิบัติตามหมายจับ เนื่องจากศาลได้อนุมัติให้ดีเอสไอแล้ว ก็ต้องดำเนินการตามหมายจับต่อไป ทั้งนี้ กรณีที่วัดพระธรรมกายต้องการให้ดีเอสไอเปลี่ยนพนักงานสอบสวน ทางดีเอสไอเพิ่งได้รับหนังสืออย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งได้มอบให้ พ.ต.ท.สมบูรณ์ รับไปพิจารณาแล้ว อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสำนวนคดีดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว ส่วนจะเปลี่ยนพนักงานสอบสวนหรือไม่ ทาง พ.ต.ท.สมบูรณ์จะเป็นผู้ดำเนินการในส่วนนี้ นอกจากนี้ สำหรับคดีอื่นที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวมีทั้งหมด 10 กว่าคดี ซึ่งเกี่ยวข้องกับนายสถาพร วัฒนาศิรินุกูล โดยคาดว่าภายในเดือน ก.ค.นี้ จะสามารถสรุปคดีได้เพิ่มอีก 2-3 คดี

Advertisement

ผู้สื่อข่าวถามว่า ดีเอสไอจะประสานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินวัดพระธรรมกาย หรือนำไปสู่การอายัดทรัพย์สินของวัดพระธรรมกายหรือไม่ พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าว มันเป็นระเบียบของสำนักนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว เรื่องการดำเนินการในคดีความผิดมูลฐาน เมื่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการแล้ว ก็ต้องส่งข้อมูลให้ ปปง. ดำเนินการในส่วนของทางแพ่งต่อไป ซึ่งเป็นไปตามระเบียบอยู่แล้ว

ถามต่อว่า หากการเจรจาในวันนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป ดีเอสไอจะมีแผนเข้าไปจับกุมภายในวัดพระธรรมกายหรือไม่ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ดีเอสไอพูดมาตลอดว่า ขั้นการดำเนินการของดีเอสไอมี 5 ขั้นตอน ซึ่งแต่ละขั้นตอนไม่ได้ผูกพันซึ่งกันและกัน ในการดำเนินการตามหมายจับเราก็ดำเนินการมาตั้งแต่ต้นแล้ว ส่วนกรณีที่มีการมองว่าดีเอสไอจะรอให้อัยการสั่งฟ้องก่อน จึงจะดำเนินการเข้าจับกุมพระธัมมชโยนั้น ตนขอเรียนว่า เราดำเนินการตามหมายจับมาโดยตลอด ไม่ได้รออะไร หากมีสถานการณ์เหมาะสม ซึ่งเราประเมินสถานการณ์แล้วก็ดำเนินการเข้าจับกุมได้ทันที ดังนั้น การดำเนินการตามหมายจับไม่เกี่ยวกับสำนวนอยู่แล้ว อีกทั้ง คดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 5 ราย ซึ่ง 3 รายเราแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ส่วนอีก 2 ราย คือ พระธัมมชโย และน.ส.ศิศิธร เราได้ส่งหมายจับติดสำนวนไปแล้ว ทั้งนี้ หากถึงวันที่อัยการมีความเห็นทางคดีแล้ว การที่จะนำตัวไปนั้น ทางอัยการก็คงมีหนังสือแจ้งมาว่าให้นำตัวผู้ที่ถูกออกหมายจับไปพบ พอถึงตอนเราก็มีวิธีการดำเนินการตามขั้นตอนอยู่แล้ว

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงข้อซักถามกรณีที่วัดพระธรรมกายยังมีความแคลงใจในเรื่องของพนักงานสอบสวน ว่า ดีเอสไอก็รับข้อคิดเห็นของทางวัดพระธรรมกายมาดู แต่ดูในประเด็นการสอบสวนแล้ว มันกลายเป็นว่าที่ทางพระธัมมชโยติดใจเป็นรายละเอียดของการสอบสวน ไม่ใช่การปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ซึ่งเรื่องที่เขาให้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงมันเป็นรายละเอียดของการสอบสวน ซึ่งตนดูแล้ว 4 ประเด็นนี้มันอยู่ในเนื้อของสำนวนการสอบสวน ฉะนั้น ในการสอบสวนในคดีนี้ท้ายสุดแล้ว พนักงานสอบสวนดูตามข้อเท็จจริงและพยานเอกสารเป็นหลัก เพราะเส้นทางการเงินมันเป็นเรื่องของเอกสาร ไม่ได้เกี่ยวกับพยานตัวบุคคลหรืออะไร มันอยู่ที่พยานเอกสารเป็นหลัก

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image