กรณีนายวิกรม กรมดิษฐ์ นักธุรกิจชื่อดัง โพสต์ภาพตัวเองคู่กับนกเงือก จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ที่พบเห็น และกลุ่มอนุรักษ์สัตว์ป่าอย่างกว้างขวาง ต่อมานายวิกรมได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กว่า เป็นนกที่น้องชายช่วยเลี้ยงดู เนื่องจากบ้านน้องชายอยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีวันหนึ่งคนงานพบนกตัวนี้ที่ข้างไร่ ไม่สามารถบินได้ ไม่ทราบว่ามาจากไหน คิดว่าคงเป็นนกของใครสักคนหนึ่งที่มีบ้านอยู่ในแถบนั้น น้องสงสารเลยเอามาเลี้ยง เพราะหากปล่อยไปก็จะถูก สัตว์ป่า หรือคนฆ่าตาย จนทุกวันนี้มันไม่ยอมไปไหนเลย นั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า ภาพที่เห็นเป็นนกเงือกสีน้ำตาล ซึ่งมีถิ่นอาศัยอยู่บริเวณป่าตะวันตก เช่น ห้วยขาแข้ง แก่งกระจาน ไม่มีทางถูกพบเห็นที่เขาใหญ่แน่นอน โดยเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ที่ผ่านมา ได้สั่งการให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์(สบอ.)ที่ 7 (นครราชสีมา) เข้าไปตรวจสอบแล้ว ซึ่งสบอ.7 ได้รายงานว่า ช่วงเย็นเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบบ้านพักส่วนตัวของนายวิกรมที่เขาใหญ่ แต่ไม่เห็นนกเงือกตัวดังกล่าว โดยในวันนี้จะเข้าตรวจสอบอีกครั้ง และในส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่านกเงือกอาจจะอาศัยอยู่ที่ตึกกรมดิษฐ์ ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพฯ นั้น ตนได้สั่งการให้สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า และสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า เข้าตรวจสอบแล้ว ซึ่งต้องรอรายงานการตรวจสอบต่อไป
เมื่อถามว่านายวิกรม เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง และเป็นผู้ที่ทำคุณประโยชน์ให้กับกรมอุทยานฯ หลายอย่าง กรมอุทยานฯ มีความลำบากใจในการตรวจสอบเรื่องนี้หรือไม่ อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า ต้องแยกแยะเรื่องทั้งหมดออกจากกัน การมีคุณประโยชน์เป็นสิ่งที่นายวิกรมทำความดี แต่จะเอาความดีเหล่านี้มากลบความผิดตรงนี้ไม่ได้ ยืนยันว่ากรมอุทยานฯ ไม่ดำเนินการ 2 มาตรฐานอย่างแน่นอน เพียงแต่ตอนนี้ต้องให้สิทธินายวิกรม ในการชี้แจงประเด็นนกเงือกตัวดังกล่าว ว่าได้มาอย่างไร มีใบครอบครองอย่างถูกต้องหรือไม่ เพราะถ้าได้มาอย่างผิดกฎหมาย กรมอุทยานก็ต้องดำเนินคดีตามมาตรา 19 พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าสงวน หรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง
“ถ้าอยากให้เรื่องนี้จบเร็วๆ นายวิกรมควรออกมาชี้แจงต่อสาธารณชน เพื่อให้ทุกอย่างกระจ่างชัดเจน ไม่ต้องให้สังคมมาตั้งคำถามอีก ยิ่งนายวิกรมออกมาชี้แจงเร็วแค่ไหนเรื่องก็จะจบเร็วเท่านั้น อีกทั้งนายวิกรมก็เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง เป็นแบบอย่างของใครหลายคน ซึ่งอาจเกิดการสร้างค่านิยมแบบผิดๆ ได้ และหากทำผิดจริงก็ควรออกมาขอโทษต่อสังคม”นายธัญญา กล่าว
เมื่อถามว่า หากเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบทั้ง 2 ที่แล้วไม่พบนกเงือกตัวดังกล่าว กรมอุทยานฯ จะดำเนินการอย่างไรต่อ นายธัญญา กล่าวว่า หากไม่พบหลักฐานก็อาจเอาผิดลำบาก แต่เนื่องจากมีรูปภาพชัดเจนว่านายวิกรมถ่ายรูปคู่กับนกเงือก กรมอุทยานฯ จะประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อสอบสวนดำเนินคดีต่อไป ทั้งนี้ประเด็นดังกล่าวสังคมกำลังหาคำตอบ ซึ่งกรมอุทยานฯ จะดำเนินการอย่างเร็วที่สุด
