ไม่เข็ด! ร้านค้าออนไลน์ขายผลิตภัณฑ์ ‘หมามุ่ย’ เกลื่อน ชูเพิ่ม ‘น้ำอสุจิ’ อย.ลั่นอาเซียนไม่รับรอง

หลังจากเกิดกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.ศตพร พันทอง อายุ 21 ปี หรือน้องมิลค์ ซึ่งเสียชีวิตภายหลังรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากหมามุ่ยอินเดีย แบบแคปซูล กระทั่งเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงก่อนจะเสียชีวิตที่โรงพยาบาลตรัง เมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา จนเกิดกระแสในสังคมออนไลน์ว่ากรณีดังกล่าวเป็นเพราะตัวหมามุ่ย ซึ่งขึ้นชื่อเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง หรือเป็นเพราะสาเหตุอื่นๆ ขณะเดียวก็เกิดคำถามว่า ไม่ใช่แค่กรณีดังกล่าว แต่สังคมไทยยังหลงเชื่อรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่นๆที่อาจกระทบต่อสุขภาพอีกมาก

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจาก “หมามุ่ย” กลับพบว่าในสังคมออนไลน์ ยังคงมีการขายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะขายในรูปแคปซูล โดยระบุสรรพคุณทั้งหญิงและชาย โดยระบุว่าช่วยโรคบุรุษ กระตุ้นกำหนัด และสำหรับสรรพคุณของเพศหญิง คือ ช่วยทำให้หน้าอกเต่งตึงมากยิ่งขึ้น ช่วยทำให้ผิวพรรณดูมีน้ำมีนวลมากยิ่งขึ้น มีส่วนช่วยให้ช่องคลอดกระชับมากยิ่งขึ้น ช่วยภาวะการมีบุตรยากทั้งชายและหญิง เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน ที่สำคัญยังเคยมีบางผลิตภัณฑ์อ้างว่า มี อย. รับรองถูกต้องอีก โดยมีจำหน่ายทั้งในรูปผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพร และกาแฟสำเร็จรูปอีกด้วย

เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กล่าวว่า กรณีผู้เสียชีวิตจากจ.ตรัง ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)ตรัง ได้ตรวจสอบข้อมูล เบื้องต้นทราบว่าผู้เสียชีวิตมีประวัติโรคลมชัก มีการรับประทานยากันชัก โดยแม่ให้ข้อมูลว่า ขณะเดียวกันได้ทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากหมามุ่ยด้วย ซึ่งเมื่อไปตรวจสอบก็พบว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่มีเลขทะเบียนของ อย. ซึ่งต้องบอกก่อนว่า อย.ไม่เคยให้เลขทะเบียนใดๆกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือผลิตภัณฑ์อาหาร หรือยาที่เกี่ยวกับหมามุ่ยเลย อย่างไรก็ตาม ส่วนกรณีที่เสียชีวิตนั้น คาดว่าเกิดจากการแพ้ยารุนแรง หรือกลุ่มอาการสตีเวนส์–จอห์นสัน ( Stevens-Johnson syndrome ) ส่วนจะแพ้สารชนิดใด ขณะนี้ได้ส่งให้ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป

นพ.ไพศาล กล่าวอีกว่า กรณีที่ยังมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจาก “เม็ดหมามุ่ย” นั้น ในส่วนของ อย. ขอยืนยันว่า อย.ไม่เคยรับรอง ไม่เคยให้เลขทะเบียนแก่ผลิตภัณฑ์ทุกชนิด เนื่องจากเรามีการทำข้อตกลงในกลุ่มประเทศอาเซียนว่า เม็ดหมามุ่ย เป็นกลุ่มยาสมุนไพร จึงจะไม่มีการออกเลขทะเบียบรับรองการผลิตในรูปผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ดังนั้น ตามท้องตลาดทุกวันนี้ที่มีการขายให้แก่ผู้บริโภค และอ้างว่ามีการรับรองจาก อย. นั้น ถือว่าผิดกฎหมายทั้งหมด ซึ่งก็ต้องไปดูว่ามีการผิดลักษณะใด เช่น หากมีการอ้างเลข อย. บนฉลาก จะถือว่าเป็นอาหารปลอม มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน – 10 ปี และปรับตั้งแต่ 5 พันถึง 1 แสนบาท แต่หากพบเพิ่มเติมอีกว่ามีการผสมยาแผนปัจจุบันร่วมด้วยก็จะผิดในข่ายอาหารไม่บริสุทธิ์มีโทษปรับ 2หมื่นบาท และจำคุก 2 ปี และหากตรวจพบเพิ่มเติมว่า โฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษปรับ ไม่เกิน 5,000บาท หรือถ้าพิสูจน์ได้ว่าเป็นการโฆษณาสรรพคุณอาหารโอ้อวดสรรพคุณเกินจริง หรือ หลอกลวงให้เกิดความหลงเชื่อโดยไม่สมควร จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

Advertisement

นพ.วิชาญ เปรี้ยวนิ่ม หัวหน้าหน่วยนิติเวช ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวถึงความคืบหน้าการรับตรวจชิ้นเนื้อกรณีสาววัย 21 ปี เสียชีวิต ว่า ขณะนี้ทางโรงพยาบาลรามาธิบดีได้รับตัวอย่างชิ้นเนื้อเรียบร้อยแล้วและได้ทำการนำไปตรวจทดสอบเพื่อค้นหาสารพิษทางห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ เนื่องจากกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจตัวอย่างและอ่านค่าพร้อมตรวจยืนยันผลอีกครั้ง

นายแพทย์สมบัติ ผดุงวิทย์วัฒนา รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง ( นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกัน ) กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ฯ ต้องการมาเก็บข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สารสกัดหมามุ่ยอินเดียที่ผู้ตายรับประทานเข้าไป พร้อมผลิตภัณฑ์อื่นๆ รวมถึงประวัติการรักษาโรค  การแพ้ยา และอาการของเด็กก่อนเสียชีวิต และต้องการเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์สารสกัดหมามุ่ยอินเดียไปส่งตรวจวิเคราะห์ แต่เนื่องจากมียาเหลือเพียง 2 แคปซูล ซึ่งไม่พอส่งตรวจ จึงไม่ได้เก็บไป ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนำไปวิเคราะห์ความเป็นไปได้ว่าแพ้ยาตัวไหน

ทั้งนี้ขอฝากเตือนประชาชนหากมีอาการแพ้ยา อาหาร และผลิตภัณฑ์ต่างๆต้องรีบพบแพทย์โดยด่วนที่สุด ถึงโอกาสที่เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงจนเสียชีวิตจะเกิดขึ้นได้มีน้อยมาก แต่ก็เกิดขึ้นได้  ส่วนอาการแพ้ชนิดรุนแรงของน้องมิลค์ที่เกิดขึ้นสอบถามจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้วพบว่าน่าจะเป็นชนิด  TEN หรือ Toxic Epidermal Necrolysis    หากมีอาการแพ้ หรือข้อสงสัยต้องรีบพบแพทย์

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image