อย.ชี้ประเด็นถอดยาบ้าจากยาเสพติด ยังไม่สรุป รอฝ่ายการเมืองชี้ขาด

นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข

วันที่ 20 มิถุนายน นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เสนอแนวคิดในการเปลี่ยนสารในกลุ่มแอมเฟตามีน หรือยาบ้า ออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ว่า การจะถอดสารกลุ่มแอมเฟตามีนหรือยาบ้าออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษประเภท 1 นั้น อยู่ที่นโยบายของฝ่ายการเมืองว่าเป็นอย่างไร เหมือนตอนที่ปรับขึ้นเป็นยาเสพติดให้โทษก็เป็นเพราะนโยบายของฝ่ายการเมือง

นพ.บุญชัยกล่าวอีกว่า การถอดยาบ้าออกจากยาเสพติดไปเป็นวัตถุออกฤทธิ์นั้น เข้าใจว่าเพื่อช่วยลดผู้ต้องขังและเพิ่มการเข้าถึงการบำบัดให้มากขึ้น ซึ่งทางกรมการแพทย์ กรมสุขภาพจิต และโรงพยาบาลก็ต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องของการบำบัด แต่เป้าหมายใหญ่ที่ประเทศไทยต้องการคือลดการเสพยาเสพติดลง ท้ายที่สุดก็ต้องมาดูว่าสามารถลดการเสพยาลงได้หรือไม่ เพราะหากแค่ช่วยเพิ่มการเข้าถึงบำบัดเพียงอย่างเดียว แต่ลดจำนวนผู้เสพไม่ได้ก็ไม่ตอบโจทย์

นพ.บุญชัยกล่าวว่า การถอดยาบ้าจากยาเสพติดให้โทษเหลือเป็นวัตถุออกฤทธิ์ ก็ต้องมาดูว่าจะกำหนดให้เป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภทไหน ซึ่งมี 4 ประเภท ตาม พ.ร.บ.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518 หากเป็นประเภท 2 ก็จะอยู่ในประเภทเดียวกับกลุ่มซูโดอีเฟดรีน คือ ขายได้เฉพาะโรงพยาบาลหรือคลินิกที่มีใบอนุญาตครอบครองและต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น หากเป็นประเภท 3 หรือ 4 ขายในร้านขายยาที่มีใบอนุญาตครอบครอง แต่ต้องรายงานจำนวนและปริมาณที่ขายต่อเดือน เช่น กลุ่มยานอนหลับ เป็นต้น

“แม้จะถอดออกจากการเป็นยาเสพติดเหลือเป็นวัตถุออกฤทธิ์ แต่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ก็ยังต้องดูแลเข้มงวด เพราะถือว่าเป็นยาที่ห้ามผู้ใดผลิต ขาย นำเข้า หรือส่งออก ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีข้อยกเว้นและหลักเกณฑ์กำหนดไว้ เช่น ประเภทที่ 2 ขายได้ในโรงพยาบาลหรือที่คลินิกที่มีใบอนุญาต และต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์ เป็นต้น ไม่ได้ปล่อยให้ใช้หรือขายอย่างอิสระแต่อย่างใด ทั้งนี้ ยืนยันว่าบทลงโทษของวัตถุออกฤทธิ์นั้นรุนแรงพอๆ กับบทลงโทษของยาเสพติดให้โทษ จึงไม่ต้องเป็นกังวล” เลขาธิการ อย.กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image