กรณีนายวิกรม กรมดิษฐ์ นักธุรกิจชื่อดัง ถ่ายภาพคู่กับนกเงือก จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เนื่องจากนกเงือกเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ไม่สามารถครอบครองหรือเลี้ยงได้นั้น ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงได้เข้าตรวจสอบที่อาคารกรมดิษฐ์ เลขที่ 2126 บริเวณดาดฟ้า ชั้น 6 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพฯ และบริเวณบ้านเลขที่ 7 ม.10 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา แต่ไม่พบนกเงือกตัวดังกล่าวตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน นายสมศักดิ์ ภู่เพ็ชร์ ผู้อำนวยการส่วนยุทธการป้องกันและปราบปราม กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้เข้าตรวจสอบที่อาคารกรมดิษฐ์ ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ โดยมีนายวิฑูรย์ กรมดิษฐ์ น้องชายของนายวิกรม ได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่านกเงือกตัวดังกล่าวได้นำมาจากบ้านที่เขาใหญ่ ซึ่งตนเป็นคนนำนกเงือกมาดูแลที่อาคารกรมดิษฐ์เอง เพราะขณะนั้นไม่มีใครดูแล อีกทั้งนกตัวนี้ยังอ่อนแอ หากปล่อยไปอาจเป็นอันตรายได้ ซึ่งเลี้ยงดูโดยไม่ได้มีการกักขัง อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ แต่มีการให้อาหารและน้ำ และได้ชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ว่าขณะนี้ได้นำไปปล่อยให้อยู่ตามธรรมชาติเช่นเดิมที่บริเวณเขาใหญ่แล้ว เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปตรวจสอบเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ว่านกเงือกยังมีอยู่จริงหรือไม่ ซึ่งได้พบกับนายสมชาติ ตะกรุดเดิม เป็นผู้ดูแลสถานที่ ตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบนกเงือกสีน้ำตาลดังกล่าวในบริเวณบ้านแต่อย่างใด
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า บริเวณพื้นที่ดังกล่าวมีเขตติดต่อกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งเป็นไปได้ที่นกเงือกจะบินไปบินมาได้ แต่นายวิฑูรย์ ได้ออกมาสารภาพผิดเอง และยอมรับว่าการกระทำดังกล่าวเกิดจากความไม่ตั้งใจ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ลงความเห็นว่าการกระทำของนายวิฑูรย์ เป็นความผิดฐานล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 16แห่ง พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 มีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ เนื่องจากมีหลักฐานตามภาพถ่าย โดยกรมอุทยานฯดำเนินคดีตามหลักฐานที่ปรากฏบนหลักข้อเท็จจริง ทั้งนี้ได้ดำเนินการกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.หมูสี เพื่อติดตามนายวิฑูรย์ กรมดิษฐ์ มาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว
ด้านนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวว่า ขณะนี้ กรมอุทยานฯได้ดำเนินคดีตามข้อเท็จจริง โดยแจ้งข้อหาต่อนายวิฑูรย์แล้ว เนื่องจากเป็นผู้ที่ออกมาสารภาพว่าเป็นคนกระทำผิดเอง ซึ่งขั้นตอนทางกฎหมายต่อไปเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน และศาลในการพิจารณาคดีว่านายวิฑูรย์จะได้รับโทษอย่างไร แต่ในส่วนของนายวิกรม ที่นำนกเงือกมาถ่ายรูปคู่นั้น แค่รู้เท่าไม่ถึงการณ์
