เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 20 มิ.ย. พล.ต.ต.อุทาสิน ฤทธิ์เรืองเดช ผบก.น.7 และ พ.ต.อ.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ รอง ผบก.น.7 สั่งการให้ พ.ต.อ.ภิญโญ ป้อมสถิตย์ ผกก.สส.บก.น.7 และ พ.ต.ท.สุทธิพล แสงบุญ สว.กก.สส.บก.น.7 นำกำลังจับกุม นายวิชาญ หรือเด้ง พงศ์ไพศาล อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/40 หมู่ 3 ต.บางสีทอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน ที่ 477/2559 ลงวันที่ 15 มิ.ย.59 ข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีอาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม, ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร พร้อมของกลางอาวุธปืนบีบีกัน 1 กระบอก เสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน 1 ตัว กางเกงยีนส์ 1 ตัว และรองเท้าผ้าใบ 1 คู่ โดยจับกุมตัวได้ที่ ห้องเช่าเลขที่ 3504 อพาร์ทเม้นท์เมืองเพิ่มสุข ชั้น 5 ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
พ.ต.อ.ภิญโญ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายวิชาญ ได้ร่วมกันกับ นายธนบัตร หรือแบงก์ บุญยะกุล อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปแล้ว ก่อเหตุใช้ รถ จยย.พร้อมอาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ พล.ต.หญิง เทียมใจ ศิริวัฒกุล อายุ 67 ปี อดีตข้าราชการเกษียณสังกัดทหารบก ปัจจุบันเป็นอาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ขณะที่กำลังข้ามสะพานลอยบริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง ถนนสิรินธร แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กทม. ได้เงินสดไป 8,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ภายหลังก่อเหตุชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.7 ติดตามจับกุม นายธนบัตร ซึ่งทำหน้าที่ขี่รถ จยย.เอาไว้ได้ก่อนตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ นายวิชาญ โกรธแค้นถึงกับโพสต์รูปถ่ายอาวุธปืนในเฟซบุ๊กส่วนตัวแสดงความอาฆาตตำรวจในทำนองที่ว่า “ขอยอมตายดีกว่าจะกลับไปติดคุก” ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวเอาไว้ได้ในที่สุด
จากการสอบสวน นายวิชาญ ยอมรับว่า เคยติดคุกมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกคดีวิ่งราวทรัพย์ ส่วนครั้งล่าสุดถูกตำรวจ สภ.บางกรวย จ.นทบุรี จับกุมคดีครอบครองยาบ้า 100 เม็ด และมีอาวุธปืนเถื่อนขนาด .38 ในครอบครองจำนวน 1 กระบอก ต้องโทษติดคุกนาน 4 ปี เพิ่งพ้นโทษเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ด้วยเหตุที่มีวุฒิการศึกษาเรียนจบแค่ชั้น ม.2 จึงยึดอาชีพเป็นลูกจ้างจัดสวน จัดบ่อปลา ได้ค่าแรงวันละ 500 บาท ต่อมารายได้ไม่พอใช้เลยตัดสินใจชักชวนเพื่อนก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ในท้องที่ จ.นนทบุรี โดยตนเป็นผู้ซ้อนท้ายไปกระชากสร้อยคอทองคำ และกระเป๋าสะพายเลือกเหยื่อที่เป็นผู้หญิงเดินริมถนน
“เมื่อได้ทรัพย์สินมาก็จะนำไปขายแบ่งเงินกันใช้ไปวันๆ ทำสำเร็จมาแล้ว 5 ครั้งโดยไม่เคยทำร้ายเหยื่อแม้แต่รายเดียว ส่วนคดีล่าสุดที่ตนก่อเหตุในท้องที่ บก.น.7 ก็เพราะเพิ่งได้อาวุธปืนบีบีกันมา จึงอยากทดลองกับเหยื่อ โดยไม่รู้ว่าเหยื่อเป็นนายทหารยศพลตรี สำหรับข้อความที่โพสต์ไปบนเฟซบุ๊กนั้นเพราะความคึกคะนอง ไม่คิดว่าตำรวจจะบุกติดตามจับกุมตัวตนได้ถึงห้องเช่า” นายวิชาญ กล่าว
ด้าน พ.ต.ท.สุทธิพล เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะทำบันทึกจับกุม นายวิชาญ และรีบนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางพลัด ส่วนกรณีผู้เสียหายรายอื่นๆ ที่ นายวิชาญ ยอมรับว่าเคยก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์นั้น จะทำการขยายผลต่อโดยประสานพนักงานสอบสวนท้องที่ที่ผู้ต้องหากับพวกเคยลงมือในพื้นที่ จ.นนทบุรี ให้ทำการติดต่อผู้เสียหายมาอายัดตัวดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป.
