วันที่ 19 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการเปิดเผยจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบึงกาฬ ว่าเมื่อเดือนพฤษภาคม 2562 นายสมคิด พุ่มพวง ได้เดินทางมาขอความช่วยเหลือกลับภูมิลำเนาเดิม คือจังหวัดตรัง เจ้าหน้าได้สอบข้อเท็จจริงและตรวจสอบเอกสารก่อนการช่วยเหลือ นายสมคิด พึ่งถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำ และไม่มีญาติมารับกลับจึงได้ไปอาศัยอยู่กับเพื่อน(ไม่ทราบชื่อ)ที่ออกจากเรือนจำด้วยกันที่อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ ได้ประมาณ 3 วัน แล้วเพื่อนถูกจับอีกครั้งเพราะเสพสารเสพติด โดนเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจปัสสาวะเพื่อนพบสารสีม่วง แต่ของนายสมคิด ไม่พบ ตำรวจจึงนำตัวส่งขึ้นรถตู้ จากบุ่งคล้า มาที่ศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ เพื่อขอความความช่วยเหลือส่งกลับถูมิลำเนา เจ้าหน้าที่ พมจ.บึงกาฬ จึงตรวจสอบโดยการคีย์ข้อมูลผู้ขอรับการช่วยเหลือ ปรากฏว่าไม่มีชื่อของนายสมคิด จึงได้สอบข้อเท็จจริงแล้วนำพานายสมคิดไปส่งขึ้นรถโดยสารประจำทาง(แอร์อุดร) เดินทางไปยังหมอชิต เพื่อต่อรถกลับจังหวัดตรัง โดยการช่วยเหลือครั้งนั้นเป็นเงินจำนวน 1,800 บาท
ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านนาเจริญกลาง ม.13 ต.หนองเลิง อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ เพื่อสอบถามความคิดเห็นของญาติน.ส.สมปอง พิมพรภิรมย์ หมอนวดแผนโบราณ ที่ถูกนายสมคิด ลวงเข้าพักในแมนชั่นแห่งหนึ่ง ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ แล้วฆ่าชิงทรัพย์ เมื่อ 21 มิถุนายน 2548 หรือ 14 ปีที่แล้ว โดยมีโทษประหารชีวิต แต่รับสารภาพ ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต
โดยนางทองปุ่น ศรีสุภา ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นพี่สาวคนโตของ น.ส.สมปอง กล่าวว่า หลังทราบข่าวว่าเจ้าหน้าที่สามารถจับตัวนายสมคิดได้ก็ดีใจ ส่วนตัวที่สูญเสียน้องสาว ถึงแม้จะนานมาแล้วคิดขึ้นมาก็ยังคับแค้นใจอยู่ เห็นหน้าก็อยากจะฆ่าทิ้งอยากให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้ประหารชีวิตจริงๆ ไม่ต้องให้อภัยโทษ เพราะถ้าออกมาจากคุกอีก ก็ไม่รู้ญาติพี่น้องใคร จะถูกฆ่าตายอีก .
