เมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) จัดงานอาชีวศึกษาทวิภาคี โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “อาชีวะฝีมือชน คนสร้างชาติ” ตอนหนึ่ง ว่า สอศ.เป็นหลักในการฝึกแรงงานฝีมือเพื่อพัฒนาเศรฐกิจของประเทศโดยเฉพาะด้านการเกษตรซึ่งมีส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศ ขณะนี้ต้องรู้ว่าเรามีความร่วมมือทวิภาคี จำนวนเท่าไร มีสาขาอะไรบ้าง อยากให้ทุกคนคิดเช่นเดียวกับรัฐบาล ที่คิดตั้งแต่ต้นน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำ ซึ่งเริ่มตั้งแต่ชุมชน หมู่บ้าน กลุ่มจังหวัด ไปจนถึงระดับประเทศ ที่จะต้องผลิตคนให้ตรงตามความต้องการในการพัฒนาประเทศ โดยทุกองค์กรหลักของศธ.อยู่ในทุกช่วง ศธ.ต้องสร้างการเรียนรู้
นายกฯ กล่าวต่อว่า สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ ทำอย่างไรสังคมถึงจะอยู่กันอย่างสงบสุข ทุกคนมีคุณธรรมจริยธรรม รวมถึงต้องทำให้เด็กมีแรงจูงใจในการพัฒนาตนเอง ไม่ใช่เรียนช่าง ก็เป็นแต่ช่าง ต้องสร้างให้เด็กรู้จักพัฒนาตนเองไปสู่การเป็นผู้บริหาร รู้ให้ลึกว่าในองค์กรของตัวเองมีอะไร ศธ.ควรมีการติดตาม เด็กที่ได้รับทุกหรือได้รับรางวัลจากการแข่งขันต่างๆ ว่าเขาเป็นหัวหน้างานแล้ว หรือยังอยู่เท่าเดิม
“เราฝึกคนออกมา ไม่ใช่ชำนาญอย่างเดียว ต้องมีความลึกซึ้งในงานที่ทำ ศธ. ต้องตามไปดูไปช่วยพัฒนาให้เขามีความก้าวหน้า สิ่งที่เห็นขณะนี้ คือความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน รวมถึงภาคอุตสาหกรรม ปัญหาคือทำอย่างไรคนของเราถึงจะมีคุณภาพ และพัฒนาไปในระดับที่สูงขึ้น และการผลิตคนไม่ใช่เพื่อทำงานในประเทศอย่างเดียว ต้องพร้อมจะออกไปทำงานต่างประเทศด้วย” นายกฯกล่าวและว่าจากนี้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไป สรุปนโยบายที่ตนพูดทั้งหมดแล้วทำโรดแมปมาว่าใครจะร่วมมือกับใคร ทำเรื่องอะไร ใช้งบประมาณเท่าไร โดยทุกหน่วยงาน ทุกกระทรวงต้องร่วมมือกันจัดทำโครงการ แล้วเสนอมาเพื่อจัดทำงบประมาณต่อไป
พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการศธ. กล่าวว่า รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ให้ความสำคัญกับการอาชีวศึกษา โดยเฉพาะอาชีวศึกษาทวิภาคี ตลอด 21 เดือน สอศ. ภาคเอกชนตั้งใจร่วมมือกันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน จนเกิดการพัฒนาแบบก้าวกระโดด มีผู้เรียนจำนวน 91,448 คน มีสถานประกอบการเข้าร่วมจำนวน 10,527 แห่ง ส่งผลให้ผู้ปกครองส่งลูกหลานเข้าเรียนจำนวนมาก
