หลังจากเกิดฝนตกหนักกระจายในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 20 มิถุนายน ต่อเนื่องถึงเช้าวันที่ 21 มิถุนายน ซึ่งส่งผลให้เกิดน้ำท่วมรอระบายในพื้นที่หลายจุด แม้หลายพื้นที่ระดับน้ำลดจนเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่พบว่ายังมีอีกบางส่วนที่น้ำยังไม่ลด โดยเฉพาะที่หมู่บ้านทองสถิตย์ ซอยรามอินทรา 34 และหมู่บ้านเสนานิเวศน์ 1 ที่ระดับน้ำยังท่วมสูงและไม่มีทีท่าจะลดระดับนั้น
เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 22 มิถุนายน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้นำทีมงานฝ่ายการเมืองลงพื้นที่ตรวจสอบน้ำท่วมขังภายในซอยรามอินทรา 34 หลังฝนตกต่อเนื่อง น้ำขังมาแล้ว 3 วัน โดยการลงพื้นที่ดังกล่าวเป็นการไปแบบไม่ได้แจ้งหมายงานล่วงหน้า ทั้งนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ระบุว่าปริมาณน้ำในคลองลาดพร้าว ซึ่งเป็นคลองรับน้ำยังมีระดับสูง ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำได้ทันที แต่ได้เร่งรัดเจ้าหน้าที่ให้ระบายน้ำโดยเร็วที่สุด หากยังไม่แห้งจะกลับมาลงพื้นที่อีกครั้งในวันที่ 23 มิถุนายนนี้
ด้านนายสมพงษ์ เวียงแก้ว ผู้อำนวยการสำนักระบายน้ำ กทม.เปิดเผยว่า สำหรับบริเวณซอยรามอินทรา 34 ซึ่งมีน้ำท่วมขังสูงกว่า 20-30 เซนติเมตร (ซม.) นั้น ในช่วงเช้า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพื้นที่ และได้กำชับให้สำนักงานเขตระดมเจ้าหน้าที่และเครื่องสูบน้ำเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่แล้ว ทั้งนี้ สำหรับพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังนั้นเป็นพื้นที่ต่ำกว่าระดับถนนหลัง ส่งผลให้มีน้ำขังและความสูงของระดับน้ำขึ้นอยู่กับระดับพื้นที่ในแต่ละหมู่บ้าน ซึ่งคาดว่าหากไม่มีฝนก็จะสามารถระบายน้ำได้ภายในเร็วๆ นี้ แต่หากมีฝนตกอาจจะล่าช้าออกไปจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม จากการคาดการณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ที่ระบุว่าจะมีฝนตกในกรุงเทพฯอีก เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้เตรียมพร้อมรับมือเพื่อช่วยเหลือประชาชนตลอดเวลา โดยเฉพาะในพื้นที่จุดเสี่ยงต่างๆ
นายสมพงษ์ กล่าวว่า ส่วนสภาพน้ำท่วมที่หมู่บ้านเสนานิเวศน์ 1 นั้น สำนักการระบายน้ำ กทม.ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมอีก 3 เครื่อง เพื่อสูบน้ำออกจากพื้นที่ซึ่งมีระดับน้ำท่วมเหลือประมาณ 20 ซม.ในบางจุด ซึ่งคาดว่าระดับน้ำจะลดลงอย่างช้าเป็นวันรุ่งขึ้น แต่หากในพื้นที่ ม.เสนานิเวศน์ 1 น้ำยังไม่ลด ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ก็จะเดินทางลงพื้นที่ในวันที่ 23 มิถุนายนนี้ อีกเช่นกัน
“สาเหตุที่ 2 จุดนี้ ยังมีน้ำท่วมอยู่ เพราะเป็นพื้นที่แอ่ง ทำให้น้ำระบายออกได้ช้า จึงต้องมีการบล็อกน้ำรอบนอกออกก่อน เพื่อจะเร่งสูบน้ำจากพื้นที่ด้านในออกไป” นายสมพงษ์ กล่าว
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม กทม. รายงานสถานการณ์ตั้งแต่เวลา 07.00 น.วันที่ 21 มิถุนายน ถึงเวลา 07.00 น. วันที่ 22 มิถุนายน ว่า พื้นที่กรุงเทพฯ ยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ฝั่งธนบุรีและฝั่งพระนครชั้นใน ส่วนพื้นที่อื่นๆ ฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง ปริมาณน้ำสูงสุด 120 มิลลิเมตร (มม.) วัดได้ที่สถานีวัดระดับน้ำคลองทวีวัฒนา ตอนคลองบางเชือกหนัง เขตบางแค ทั้งนี้ จากปริมาณฝนที่ตกหนักส่งผลให้พื้นที่กรุงเทพฯ มีน้ำท่วมขังรอการระบายในถนนสายหลัก 27 จุด เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการแก้ไขและระบายน้ำในพื้นที่แห้งเป็นปกติแล้ว 25 จุด ได้แก่ 1.ถนนนครไชยศรี บริเวณหน้าตลาดศรีย่าน 2.ถนนราชวิถี บริเวณมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา 3.ถนนราชวิถี บริเวณเชิงสะพานกรุงธน 4.ถนนสนามไชย บริเวณหน้าวัดโพธิ์ 5.ถนนเจริญกรุง บริเวณแยกหมอมี 6.ถนนเยาวราช บริเวณ ถนนเฉลิมบุรี – ถนนราชวงศ์ 7.ถนนรอบสนามหลวง บริเวณรอบสนามหลวง 8.ถนนเพชรเกษม บริเวณคลองยายเพียร 9.ถนนอิสรภาพ บริเวณช่วงตลาดพรานนก 10.ถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าซีคอน 11.ถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าวัดม่วง 12.ถนนศรีอยุธยา บริเวณหน้าวังสวนผักกาด 13.ถนนสาธุประดิษฐ์ บริเวณถนนจันทน์ – โรงเรียนญาณเวช 14.ถนนศรีอยุธยา บริเวณโรงเรียนสันติราษฎร์ 15.ถนนจันทน์ บริเวณแยกสาธุประดิษฐ์ 16.ถนนศรีอยุธยา บริเวณโรงเรียนอำนวยศิลป์ 17.ถนนพระราม 6 บริเวณหน้าสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 18.ถนนสุรวงศ์ บริเวณใต้ทางด่วน 19.ถนนบรรทัดทอง บริเวณซอยพญานาค – คลองแสนแสบ 20.ถนนพระราม 6 บริเวณหน้ากรมทางหลวง 21.ถนนประชาอุทิศ บริเวณหน้าตลาดเขตทุ่งครุ (ซอย 76) 22.ถนนดินแดง บริเวณ ซอยสุทธิพร 2 – ตลาดขวัญ 23.ถนนพัฒนาการ บริเวณหน้า ธ.กรุงไทย 24.ถนนพัฒนาการ บริเวณหน้าตึกทรู และ 25.ถนนรามคำแหง บริเวณ ซอย 1–3 ส่วนที่เหลือ 2 จุด ที่ยังมีน้ำท่วมขังรอการระบายอยู่ในพื้นที่เขตตลิ่งชัน ได้แก่ ถนนเลียบทางรถไฟ บริเวณหน้าศาลตลิ่งชัน ระดับน้ำสูง 15 – 20 ซม. กว้างเต็มผิวจราจร ความยาว 200 ม. และ 2.ถนนฉิมพลี บริเวณอู่สง่า ระดับน้ำสูง 15–20 ซม. ขนาด 2 ช่องจราจร ความยาว 200 ม.เนื่องจากมีฝนตกหนักต่อเนื่องและพื้นที่มีสภาพเป็นแอ่ง
