เมื่อวันที่ 29 มกราคม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีมอบใบอนุญาตจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็ก และตรวจเยี่ยมการดำเนินงานสถานรับเลี้ยงเด็กของสถานประกอบกิจการในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง กรุงเทพฯ ว่า พม.ให้ความสำคัญในการลงทุนและพัฒนาเด็กปฐมวัย จึงได้ผลักดันให้หน่วยงานภาครัฐและสถานประกอบกิจการจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็กขึ้น เพื่อให้เด็กปฐมวัยได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากพ่อแม่ ผู้ปกครองที่ทำงานนอกบ้าน เป็นการส่งเสริมความอบอุ่นและเสริมสร้างสัมพันธภาพที่ดีแก่ครอบครัว ซึ่งเป็นหน่วยพื้นฐานที่สำคัญในการพัฒนาสังคม
พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวอีกว่า สำหรับสถานรับเลี้ยงเด็กที่ พม.ให้การดูแลนั้นจะมีการดำเนินงาน 2 ลักษณะ ได้แก่ 1.สถานรับเลี้ยงเด็กของหน่วยงาน เรียก “สถานรับเลี้ยงและพัฒนาเด็ก” เป็นรูปแบบการจัดสวัสดิการเลี้ยงดูและพัฒนาเด็กที่เป็นบุตรหลานของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ภายในกระทรวง ตลอดจนประชาชนทั่วไปที่มีรายได้น้อย โดยนำมาตรฐานศูนย์เด็กเล็กแห่งชาติมาปรับใช้เป็นแนวทางในการยกระดับการบริการให้มีคุณภาพมีจำนวน 4 แห่ง ได้แก่ สถานรับเลี้ยงและพัฒนาเด็กทีปังกรการุณยมิตร ตั้งอยู่ในสถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี สถานรับเลี้ยงและพัฒนาเด็ก พล.ต.ท.โชติ-นางชุบ โชติชนาภิบาล ตั้งอยู่เขตธนบุรี สถานรับเลี้ยงและพัฒนาเด็กบ้านปากเกร็ด ตั้งอยู่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และสถานรับเลี้ยงและพัฒนาเด็กนายแพทย์ประสงค์-สุดสาคร ตู้จินดา ตั้งอยู่เขตบางบอน
ขณะที่ลักษณะที่ 2.สถานรับเลี้ยงเอกชน หรือ Nursery เป็นการส่งเสริมให้เอกชนดำเนินการจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็กเอกชน โดยกระทรวงจะออกใบอนุญาต ต่ออายุใบอนุญาต เพิกถอนใบอนุญาตการจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็กเอกชนตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ทั้งนี้ สถานรับเลี้ยงเด็กเอกชนมีอายุการดำเนินงาน 1 ปี ต้องต่ออายุทุกปี โดยเสียค่าธรรมเนียมในการต่ออายุปีละ 200 บาท ณ กรมกิจการเด็กและเยาวชน กองส่งเสริมสวัสดิการเด็กและครอบครัว ตั้งอยู่ในสถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี ซึ่งปัจจุบันมีสถานรับเลี้ยงเด็กทั่วประเทศจำนวน 1,568 แห่ง มีพี่เลี้ยงเด็ก 6,442 คน และมีเด็กเข้ารับบริการจำนวน 70,552 คน
“การดำเนินงานสถานรับเลี้ยงเด็กของทั้ง 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ดาต้าโปรดักส์ ทอปปัง ฟอร์ม จำกัด และบริษัท อ๊าร์ท-เสรีนา ปิสตัน จำกัด ซึ่งนับว่าเป็นจุดต้นแบบนำร่องการดำเนินงานสถานรับเลี้ยงเด็กในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม และขอชื่นชมสถานประกอบกิจการดังกล่าวที่ให้ความสำคัญในการลงทุนเกี่ยวกับการพัฒนาเด็กปฐมวัย กระทรวงการพัฒนาสังคมฯและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการจัดทำมาตรการที่จะสนับสนุนช่วยเหลือให้สถานประกอบกิจการได้จัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็กให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และหากสถานประกอบกิจการที่ดำเนินการจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็กมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปให้คำแนะนำ เพื่อให้ดำเนินการได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมต่อไป” พล.ต.อ.อดุลย์กล่าว
