| ที่มา | มติชนออนไลน์ |
|---|---|
| เผยแพร่ |
คืบหน้ากรณีไล่รื้อชุมชนป้อมมหากาฬ เพื่อสร้างสวนสาธารณะซึ่งยืดเยื้อมานาน 24 ปี
ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน เวลา 16.00 น. ที่ชุมชนป้อมมหากาฬ เขตพระนคร กรุงเทพฯ มีการจัดเวทีเจรจาระหว่าง กรุงเทพมหานครและชุมชนป้อมมหากาฬ โดยมีนักวิชาการอาทิ นายชาตรี ประกิตนนทการ อาจารย์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ม.ศิลปากร นายปฐมฤกษ์ เกตุทัต นักวิชาการอาวุโส พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายศักดิ์ชัย บุญมา ผู้อำนวยการกองจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินกรุงเทพมหานคร รวมทั้งชาวชุมชนและประชาชนทั่วไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มนักวิชาการ ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับปัยหาของแผนแม่บทคณะกรรมการเกาะกรุงรัตนโกสินทร์ที่มีความล้าสมัย เนื่องจากจัดทำขึ้นตั้งแต่ 50 ปีก่อน ไม่สอดคล้องกับสภาพสังคมและวิถีชีวิตในปัจจุบัน รวมถึงปัญหาด้านการบริหารงานที่ขาดการมองภาพรวมขององค์กรต่างๆของรัฐ จึงมีข้อเสนอให้แก้ไขพระราชกฤษฎีกา (พรฎ.) เพื่อปลดล็อกกฎหมายที่ทำให้ไม่สามารถพัฒนาพื้นที่ให้เอื้อประโยชน์ต่อทุกฝ่ายได้ รวมถึงเสนอให้การเปลี่ยนบทบาทของกทม. จากการที่เป็นผู้รอฝั่งตุลาการมากระตุ้นและส่งผลต่อการไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ที่ เป็นภาระผูกพัน ให้เป็นผู้ยื่นเรื่องต่อครม.ชี้แจงข้อจำกัดและความล้าหลังของแผนแม่บทเดิม
สำหรับข้อเสนอของชุมชนป้อมมหากาฬ มีดังนี้
1.ให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการฝ่ายกฎหมายทั้งสองฝ่าย
2.ให้ระงับการปิดหมาย ไล่รื้อ จนกว่าจะหาทางออกร่วมกันทั้งสองฝ่าย
3.ให้มีการจัดเวทีสาธารณะ โดยให้ประชาชนในภาคส่วนอื่นๆ ได้มีส่วนร่วมกำหนดทิศทางในการแก้ไขปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย
ด้านกทม. ชี้แจงว่า ปัญหาในส่วนของตนอยู่ที่ “ข้อกฎหมาย” ซึ่งบังคับให้เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการตามแผน ไม่เช่นนั้นจะมีบทลงโทษฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่ อย่างไรก็ตาม จะไม่ดำเนินการไล่รื้อโดยไม่แจ้งล่วงหน้า
พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จะไม่คุยกันในฐานะประชาชนกับนักการเมือง แต่จะคุยในฐานะคนไทยด้วยกัน ตนไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับพื้นที่ตรงนี้ แต่จะนำไปตอบผู้ตรวจการแผ่นดิน ศาลปกครองสูงสุดว่าอย่างไร ตอบฝ่ายกฎหมายบ้านเมืองว่าอย่างไร
“เราจะไม่คุยกันในฐานะที่เป็นประชาชนกับนักการเมือง แต่ ฐานะคนไทยด้วยกัน ผมทำเพราะต่างคนต่างมีหน้าที่ ต่างคนต่างมีหน้าที่ของตัวเอง ผมทำผมไม่ได้อะไร คนที่ได้ประโยชน์คือกรุงเทพ คือประเทศไทย” พลตำรวจเอกอัศวินกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเวทีการพูดคุยดังกล่าว ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดสำหรับทางออกในเรื่องนี้ โดยกทม.ได้เชิญชุมชนร่วมประชุมหารือต่อในวันพรุ่งนี้ เวลา 0.900 น.
น.ส.อินทิรา วิทยสมบูรณ์ นักกิจกรรมเพื่อสังคม ซึ่งทำงานร่วมกกับป้อมมหากาฬ กล่าวว่า แม้วันนี้ยังไม่มีข้อสรุป แต่จากการพูดคุยทั้งหมด ทำให้มองเห็น “โอกาส” และท่าทีในเชิงบวกว่ายังสามารถมีพื้นที่ที่นำไปสู่การเจรจาได้อีก ซึ่งในวันพรุ่งนี้ตนจะเข้าร่วมประชุมที่กทม.จากนั้นคาดว่าจะมีการออกแถลงการณ์ในช่วงเย็นวันเดียวกัน
“ท่าทีในวันนี้ เห็นชัดว่าไม่ได้มีการหักด้ามพร้าด้วยเข่า ทำให้เรามองเห็นโอกาสและพื้นที่ซึ่งจะนำไปสู่การเจรจา แม้จะยังไมได้ข้อสรุป” น.ส.อินทิรากล่าว
