เบื้องหลัง พนักงานขับรถเมาหื่น บุกลวนลามข้าราชการสาว เรื่องฉาวในกรมป่าไม้

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีเกิดเหตุ นาย อ.(นามสมมุติ) พนักงานราชการ ซึ่งเป็นพนักงานขับรถ สำนักวิจัย กรมป่าไม้ ได้พยายามกระทำการข่มขืน ข้าราชการสาว หน่วยงานเดียวกัน ระหว่างออกไปปฏิบัติราชการนอกพื้นที่ แต่ไม่สำเร็จ โดยที่ข้าราชการสาวหนีออกมาทัน ต่อมาข้าราชการสาวคนดังกล่าว ได้แจ้งเรื่องนี้ให้กับข้าราชการผู้ใหญ่ซึ่งเป็นผู้หญิงเหมือนกันทราบ และบอกว่า จะนำเรื่องที่เกิดขึ้นเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ได้ถูกข้าราชการผู้ใหญ่ดังกล่าวห้ามเอาไว้ โดยอ้างว่า หากไปแจ้งความจะทำให้กรมป่าไม้เสื่อมเสีย อีกทั้งขอให้ปิดเรื่องนี้ให้เงียบ จะย้ายพนักงานราชการคนดังกล่าวออกจากพื้นที่เอง สร้างความอึดอัดและเสียใจแก่ข้าราชการสาวอย่างมาก

ต่อมา เพื่อนสนิทของข้าราชการสาว รู้สึกถึงความไม่เป็นธรรมที่เพื่อนได้รับไม่ไหว จึงได้เขียนข้อความเรื่องที่เกิดขึ้นผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก ทำให้เรื่องรู้ถึง นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ นายชลธิศจึงเรียกตัวผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ทั้งหมดมาสอบถาม แต่หัวหน้างานของข้าราชการสาว ได้สั่งกับข้าราชการสาวว่า ให้บอกนายชลธิศว่า เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด อย่าบอกความจริงกับนายชลธิศเด็ดขาด พร้อมทั้งย้ำว่า จะเป็นผู้จัดการเรื่องนี้ให้เอง โดยจะย้าย นาย อ.ให้เร็วที่สุด

อย่างไรก็ตาม นายชลธิศ ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของข้าราชการสาวคนดังกล่าว เมื่อสอบถามข้อมูลเสร็จ ในเย็นวันเดียวกัน นายชลธิศจึงได้โทรศัพท์ไปหาข้าราชการสาวคนดังกล่าวอีกครั้งด้วยตัวเอง พร้อมทั้งบอกว่า ให้พูดความจริง จะดูแลเรื่องความปลอดภัยเต็มที่ ให้คำมั่นสัญญา ในฐานะผู้บังคับบัญชา และผู้ชายที่มีลูกสาวในวัยไล่เลี่ยกัน ข้าราชการสาวคนดังกล่าวจึงกล้าที่จะเล่าความจริงทั้งหมดให้ฟัง สร้างความไม่พอใจให้กับนายชลธิศอย่างมาก ที่ถูกหลอก และการไม่ปกป้องผู้ใต้บังคับบัญชาที่เป็นผู้หญิงเหมือนกันของหัวหน้างานดังกล่าว อีกทั้ง นายชลธิศ หัวหน้างานของข้าราชการหญิง และข้าราชการหญิง ต่างก็เป็นศิษย์เก่าคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เหมือนกัน ซึ่งปกติแล้ว ชาววนศาสตร์จะเป็นกลุ่มที่มีความผูกพันและช่วยเหลือกันตลอด

ข่าวแจ้งว่า เหตุการณ์ฉาวโฉ่ดังกล่าวนี้ เกิดมาจาก ทางสำนักวิจัยต้องเดินทางไปเก็บข้อมูลการทำงานที่ศูนย์เพาะชำกล้าไม้ จ.สระบุรี โดยทั้งหมดเดินทางกันไป 5 คน รวมทั้ง นาย อ. ซึ่งเป็นพนักงานขับรถ ข้าราชการสาว หัวหน้างานของข้าราชการสาว และเพื่อนร่วมงานผู้หญิงอีก 2 คน

Advertisement

เมื่อไปถึงสถานที่ทำงานในช่วงเวลาเย็น ทั้งหมดรับประทานอาหารร่วมกัน โดยนาย อ.ดื่มสุราด้วย จนเริ่มมีอาการมึนเมา ทั้งนี้ ที่ศูนย์เพาะชำกล้าไม้ มีห้องพักอยู่ 2 ห้อง เป็นห้องเล็กและห้องใหญ่ เมื่อถึงเวลานอน หัวหน้างาน บอกว่า จะไปนอนห้องเล็กกับเพื่อนร่วมงานผู้หญิงอีกคนหนึ่ง และปล่อยให้ นาย อ. ข้าราชการสาว และเพื่อนหญิงอีกคน นอนพักรวมกันในห้องนอนใหญ่ เมื่อตกดึกจึงเกิดเหตุไม่เหมาะสมขึ้นมา เมื่อนาย อ.ดื่มสุราเข้าไป บุกเข้าไปหาข้าราชการสาวที่กำลังนอนหลับ ปลุกปล้ำจะล่วงละเมิดทางเพศ แต่ข้าราชการสาวตื่นขึ้นมา และเกิดการต่อสู้กันขึ้น จน นาย อ.ล่าถอยออกไป

เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ข้าราชการสาวเกิดความหวาดกลัวและขวัญเสียอย่างมาก แต่ด้วยความเกรงกลัว และเกรงใจหัวหน้างานที่สั่งการว่าห้ามไปแจ้งความ เพราะกลัวความเสียหาย จึงยังไม่ได้แจ้งความ ข้าราชการสาวจึงอยู่ในอาการเศร้าหวาดผวาตลอดเวลา ขณะที่ นาย อ.กลับมีอาการ ฮึกเหิม เพราะเห็นว่า หัวหน้างานเข้าข้างตัวเอง จึงไม่มีความรู้สึกผิด ทั้งนี้ นาย อ. ในอดีต เคยเป็นคนขับรถ ให้กับ นายสุวิทย์ รัตนมณี อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ ที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว แต่ทำได้ไม่นาน นายสุวิทย์ ก็ทำเรื่องส่งตัว นาย อ.กลับมายังต้นสังกัดเดิม คือ สำนักวิจัย มีเสียงซุบซิบตามหลังมาว่า เป็นเพราะ นาย อ.ชอบดื่มสุรา และขับรถเร็ว

ในระหว่างที่นายชลธิศ ยืนยันว่า จะตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง จากคณะกรรมการที่เป็นผู้หญิงทั้งหมด แต่ทั้งข้าราชการสาว และนาย อ. ยังต้องเผชิญหน้ากันทุกวัน ขณะเดียวกัน เหล่าบรรดาเจ้าหน้าที่ ทั้งของกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ทั้งที่เป็นศิษย์เก่าของคณะวนศาสตร์ ต่างพากันโกรธแค้น นาย อ.และเห็นใจ ข้าราชการสาว พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการลงโทษที่สาสม แก่ นาย อ. รวมทั้งหัวหน้างานของข้าราชการสาว ที่ไม่เห็นใจในความเป็นลูกผู้หญิงด้วยกัน

Advertisement

เวลานี้ทุกคนต่างก็เฝ้ารอว่าผลการสอบของคณะกรรมการฯจะออกมาในรูปแบบไหน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image