“บิ๊กต๊อก” บอกเรื่องปกติ “วัดพระธรรมกาย” พาชมวัด ชี้เวลาใครมีปัญหาอะไรก็ต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่สุดท้ายต้องดูข้อเท็จจริง ส่วนประเด็นขอหมายค้นวัดพระธรรมกายรอบ 2 ขึ้นอยู่กับความพร้อมของ “ดีเอสไอ”
เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีวัดพระธรรมกายพาสื่อมวลชนเข้าตรวจสอบภายในวัด หลังมีกระแสข่าวว่ามีการซ่องสุมอาวุธ ว่า เป็นสิทธิ์ที่ทางวัดพระธรรมกายสามารถทำได้ หากเขาต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่ข้อเท็จจริงเราก็ต้องรับทราบตามข้อเท็จจริง แต่เรื่องนั้นเป็นเรื่องที่ทางวัดพยายามแสดงออกเรื่องนี้ ก็ต้องเข้าใจ เราอย่าไปมองว่าดีหรือไม่ดี อย่าไปมองอย่างนั้น ทุกคนเวลามีปัญหากับใคร ก็พยายามแสดงความบริสุทธิ์ใจให้สังคมรับทราบ ซึ่งเราก็ต้องเข้าใจในแง่นี้ และเป็นวิธีการอันหนึ่ง แต่ท้ายที่สุดมันก็ไปจบที่ข้อเท็จจริงว่าใช่หรือไม่ใช่ เพราะข้อเท็จจริงมันไม่สามารถที่จะไปปิดบังสังคมได้ ซึ่งอยู่ตรงนี้มากกว่า จึงต้องให้ความเป็นธรรมกับเขาด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการขอหมายค้นวัดพระธรรมกายรอบ 2 เพื่อจับกุมพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย อีกหรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับความพร้อมของพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ต้องทำสำนวนคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น รวม 14 คดี ซึ่งมี 4 คดีที่เชื่อมโยงกับพระธัมมชโย ซึ่งคดีอื่นเราก็ดำเนินการไปพร้อมกัน จึงต้องให้เวลาพนักงานสอบสวนทำงาน ประกอบกับพนักงานอัยการ จะใช้ระยะเวลาในการตรวจสำนวนคดี และนัดฟังคำสั่งว่าจะฟ้องหรือไม่ในวันที่ 13 ก.ค.นี้ ซึ่งขึ้นอยู่กับความเห็นของอัยการว่าจะต้องนำตัวพระธัมมชโยมาส่งฟ้องต่อศาลด้วยหรือไม่ ส่วนกรณีที่ดีเอสไอตรวจสอบพบหลักฐานการบริจาคเงินของสหกรณ์ฯคลองจั่นให้วัดพระธรรมกายเพิ่มอีก 400 กว่าล้านบาทนั้น ขณะนี้ตนยังไม่ได้รับรายงานว่าเงินดังกล่าวมีความผิดหรือไม่ แต่หากดีเอสไอตรวจสอบแล้วว่ามีความผิด การที่วัดจะคืนเงินให้สหกรณ์ฯ หรือไม่ ก็ไม่ใช่ประเด็น
“เราอย่าเพิ่งไปพูดถึงเรื่องนี้เชื่อมโยงว่าเป็นความผิด ผมยังไม่แน่ใจว่าเงิน 400 ล้านบาทเป็นความผิดหรือไม่ ซึ่งต้องสอบให้ชัด ถ้าเป็นความผิดมันก็จะไปเชื่อมกับคดีที่ทำอยู่ ผมถึงบอกว่าเราเป็นเจ้าพนักงานเราต้องให้ความเป็นธรรม แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อสอบสวนแล้วเป็นความผิดของเงินก้อนนี้ มันจะคืน หรือไม่คืน ไม่ใช่ประเด็น และไม่ใช่เรื่องที่จะมาอ้างว่าไม่ดำเนินคดีมันไม่ใช่” รมว.ยุติธรรม
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการามวรวิหาร ในฐานะเจ้าคณะใหญ่หนกลาง จะทำหน้าที่เป็นคนกลางประสานกับพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ว่า พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบ แต่ก็คงทราบกันตั้งแต่ช่วง 1-2 เดือนแรกแล้วว่าเราต้องการให้ทางผู้บังคับบัญชาในทางสงฆ์เข้ามาเกี่ยวข้องในการดูแล ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่ดีเอสไอทำงานอยู่แล้ว ก็ต้องนมัสการไปถึงท่านด้วย หากทำได้ก็ดี เราก็ต้องใช้หลายๆทางที่จะทำให้เรื่องนี้ยุติลงด้วยดีเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า มีการแจ้งเบาะแสให้ดีเอสไอเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างเวิร์ล พีช สาขาวัดพระธรรมกาย ที่อาจมีการรุกล้ำที่ดินรัฐในพื้นที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ซึ่งต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินการตรวจสอบ
