อภ.จ่อผลิตยาเอชไอวี 2 ชั้นผสมยา3ชนิดในเม็ดเดียวครั้งแรกในไทย

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ภญ.มุกดาวรรณ ประกอบไวทยกิจ รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวภายหลังพาเยี่ยมชมโรงงานผลิตยารังสิต 1 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ว่า ขณะนี้โรงงานแห่งนี้มีสายการผลิต 4 สาย แบ่งเป็น ยาแคปซูล 2 สาย และยาเม็ด 2 สาย โดยในปี 2559 คาดว่าจะผลิตยาทั้งหมดได้ 1,136 ล้านเม็ด/แคปซูลต่อปี เมื่อดำเนินการผลิตได้เต็มกำลังการผลิต จะสามารถผลิตได้ทั้งหมด 3,406 ล้านเม็ด/แคปซูลต่อปี โดยภายใน 5 ปีข้างหน้าจะเพิ่มสายการผลิตอีก 1 สายการผลิต จะทำให้ผลิตได้ทั้งหมด 6,745 ล้านเม็ด/แคปซูลต่อปี

ภญ.มุกดาวรรณ กล่าวว่า ในปี 2560 จะมีเปลี่ยนรูปแบบการผลิตครั้งใหม่ และถือเป็นครั้งแรกของไทยด้วยการนำเข้าเครื่องตอกเม็ดยาความเร็วสูงจากเยอรมนี ซึ่งมีความพิเศษสามารถตอกยาได้ 2 ชั้น ในกรณียาสูตรผสม โดยเฉพาะยาต้านไวรัสเอชไอวี ซึ่งที่ผ่านมาผู้ติดเชื้อเอชไอวีจะต้องกินยาแยกหลายเม็ด ทำให้มีความยุ่งยากในการรับประทาน แต่เมื่อมีเครื่องดังกล่าวจะทำให้การรับประทานยาสะดวกขึ้น เพราะทานเพียงเม็ดเดียว โดยกลุ่มยาที่จะนำมาใช้ล็อตแรกคือ ยาต้านไวรัสเอชไอวี GPO- VIR T ประกอบด้วยยา 3 ตัว คือ Tenofovir DF 300 มิลลิกรัม Emtricitabine 200 มิลลิกรัม และ Efavirenz 600 มิลลิกรัม ซึ่งที่ผ่านมายา Efavirenz เป็นยาที่ไม่สามารถผสมกลืนกับยา 2 ตัวแรกได้ เพราะจะส่งผลต่อประสิทธิภาพของยา จึงต้องทำเป็นยาแยก แต่จากเครื่องดังกล่าวจะทำให้ทั้ง 3 ตัวยา อยู่ได้ในเม็ดเดียว

“เครื่องดังกล่าวนำเข้าจากเยอรมนี มูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท จะติดตั้งในเดือนเมษายนปี 2560 และจะผลิตได้ในเดือนพฤษภาคม 2560 ซึ่งในการผลิตออกมา ยาทั้งสองส่วนจะต้องมีปริมาณยาที่เพียงพอและเท่ากัน ซึ่งจะมีการชั่งน้ำหนักก่อนที่เครื่องจะตอกยาทั้งสองส่วนเข้าด้วยกัน” รองผู้อำนวยการ อภ. กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image