ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ยังไม่หยุดลาม
ทั่วโลกพุ่งขึ้นกว่า 2 หมื่นคน ตายแล้วครึ่งพัน !
น่าเศร้า ถ้าเอาไปเทียบกับ “อุบัติเหตุทางถนน” ช่วงปีใหม่กับสงกรานต์รวมกันในประเทศไทยซึ่งมีคนตายมากกว่า 2 เท่า
แต่ในทางจิตวิทยา “โรคระบาด” ชวนให้ผู้คนตระหนกยิ่งกว่า “อุบัติเหตุทางถนน” หลายเท่า
คำเตือนและบทเรียนซ้ำแล้วซ้ำเล่าเกี่ยวกับ “อุบัติเหตุทางถนน” เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา เคยใช้นิสัยเสื่อมทรามขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ อย่างไรก็ยังคงเป็นไปอย่างนั้น ที่ตายไปแล้วก็เผากันไป พฤติกรรมการขับขี่เดิมๆ ยังอยู่หาได้เปลี่ยนไปไม่
ตัวเลขคนเจ็บคนตายจากอุบัติเหตุบนท้องถนนในประเทศไทยจึงสูงในอันดับต้นๆ ของโลก !
น่าสงสัยว่า เมื่อต้องเจอกับสถานการณ์โรคระบาด ท่าทีของไทยเป็นเช่นไร
ต้องสังเกตจากผู้คนรอบตัว ไกลตัว และผู้คนทั่วไป
กล่าวสำหรับในจีน
ถึงแม้ผู้นำทุกระดับตั้งแต่สูงสุดถึงท้องถิ่นจะมีความชัดเจน เด็ดขาดและจริงจังในการออกมาตรการ และคำสั่งต่างๆ เพื่อสกัดกั้นยับยั้งการแพร่ระบาด แต่จีนก็ยอมรับความล้มเหลวผิดพลาดในการจัดการและรับมือกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
จีนไอจามโรคลามไปทั่วโลก !
ที่ประเทศต่างๆ พากัน “ห้าม” หรือสกัดกั้นคนจีนเข้าเมืองนั้นไม่ได้หมายความว่ารังเกียจ หรือไม่เป็นมิตร ไม่เห็นใจเพื่อนร่วมโลกในยามยาก แต่เป็น “มาตรการ” ที่จะหยุดยั้งการลาม
แม้แต่พ่อแม่ลูก สามีภรรยายามป่วยไข้ด้วยโรคทางเดินหายใจหรือแค่ไข้หวัดธรรมดาก็ยังต้องแยกกินแยกใช้แยกห้องนอนเพื่อป้องกันไม่ให้คนที่เรารักติดเชื้อเป็นไข้พลอยเดือดร้อนไปด้วย
สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อิสราเอล จึงห้ามชาวต่างชาติที่เพิ่งเดินทางไปประเทศจีนในเร็วๆ นี้เข้าประเทศ
มองโกเลีย รัสเซีย เนปาล เวียดนาม ปิดพรมแดน แม้แต่ฮ่องกงก็เรียกร้องให้ทางการปิดพรมแดนจีน
ไม่ใช่เรื่องที่จะมาดราม่าว่าเพื่อนแท้ในยามยากไม่ทิ้งกัน
แต่เป็นเรื่องของ “มาตรการ” ที่รัฐหนึ่งพึงมีวิสัยทัศน์หรือมองการณ์ไกลแล้วลงมือจัดการเพื่อความปลอดภัยของพลเมือง
เช่นเดียวกันจีนที่สั่งปิดเมืองอู่ฮั่น ปิดเมืองไท่โจว ปิด 3 เขตในเมืองหางโจว นั่นก็เป็นไปเพื่อความปลอดภัยของชาวจีนและชาวโลก !?!!