คุมเข้ม! ผู้ว่าฯภูเก็ต แจงเรือสำราญเทียบท่าตามกำหนดการ ตรวจแล้วไม่พบผู้มีไข้ ขอปชช.อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม

หลายหน่วยงานระดมกำลังร่วมตรวจคัดกรองนทท.จากเรือสำราญ 2 ลำที่เข้าจอดเทียบท่าภูเก็ต ผู้ว่าเผยมีมาตรการเข้มข้น เบื้องต้นยังไม่พบผู้มีไข้สูงและเป็นกลุ่มเสี่ยง – ขณะที่โซเซียลภูเก็ตตื่นตัว

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ท่าเทียบเรือน้ำลึกบ้านอ่าวมะขาม ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตพร้อมด้วย พลเรือโทเชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ,พลเรือ ตรีวโรดม สุวารี รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดภูเก็ต , น.อ.ธรรมวรรต มาลัยสุขรินทร์ รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จังหวัดภูเก็ต (รอง ผอ.ศรชล. จังหวัดภูเก็ต),นายแพทย์ธนิศ เสริมแก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต,นายแพทย์กฤษณ์ สกุลแพทย์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต และคณะหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปตรวจเยี่ยมการตรวจคัดกรองตามมาตรการควบคุมและตั้งรับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ COVID 19

ซึ่งวันนี้มีเรือสำราญระหว่างประเทศ ขนาดใหญ่(เรือครุยส์) ชื่อ SEABOURN OVATION ที่มาจากฮ่องกง-มาเลเซีย-ไทย เดินทางเข้ามาจอดเทียบท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต

โดยมี นายวิวัธน์ ชิดเชิดวงศ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต, นายแพทย์อนพัทย์ กอวนิช หัวหน้าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าเรือภูเก็ต,เรือเอกธีระ ฑีร์ฆะยศ หัวหน้าสำนักงานนำร่องภูเก็ต, ด่านศุลกากร,ด่านตรวจคนเข้าเมือง ให้การต้อนรับและร่วมปฏิบัติงานตรวจคัดกรอง นักท่องเที่ยวที่โดยสารมากับเรือดังกล่าว ซึ่งเป็นการดำเนินงานตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก

Advertisement

สำหรับชื่อเรือ SEABOURN OVATION หมายเลข IMO 0764958 สัญชาติ BAHAMAS ขนาดเรือ 41,865 ตันกรอส ออกเดินทางมาจากเมืองท่า Langkawi ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 กำหนดเข้าเทียบท่าเรือน้ำลึกจังหวัดภูเก็ต ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 07.00 น. และจะออกจากท่าในเวลา 17.00 น.วันเดียวกัน เพื่อเดินทางไปยังประเทศสิงคโปร์ บนเรือมีผู้โดยสาร 495 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรปและมีชาวเอเชีย 1 คนคือสัญชาติอินเดีย จำนวนลูกเรือ 433 คน รวมทั้งหมด 928 คน

นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่าเรือ SEABOURN OVATION นำนักท่องเที่ยว 495 ราย เป็นชาวยุโรปเกือบทั้งหมดไม่มีชาวจีนเข้ามาท่องเที่ยวและพักผ่อนที่จังหวัดภูเก็ต สำหรับขั้นตอนปฏิบัติคือทุกเที่ยวเรือ ที่เข้ามาเทียบท่าในจังหวัดภูเก็ต จะมีการตรวจพฤติการณ์ก่อน จากนั้นจะมีการตรวจควบคุมโรคติดต่อตามสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 โดยคัดกรองตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก วันนี้ทีมแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต บุคลากรจาก ทัพเรือภาคที่ 3 มาช่วยอำนวยความสะดวกในการที่จะใช้ “เครื่องเทอร์โมอินฟราเรด” ในการที่จะมีการตรวจคัดกรองผู้ที่มีไข้

แต่อย่างไรก็ตามตามระเบียบวิธีการทางเรือได้มีการดำเนินการอยู่แล้วและก็มีบุคลากรทางแพทย์ สาธารณสุขที่อยู่ที่ด่านควบคุมโรคจังหวัดภูเก็ต ได้ประสานงานกับเจ้าที่บนเรือ ผลการตรวจสอบนักท่องเที่ยวทั้ง 495 รายไม่มีผู้ใดเป็นไข้แต่เพื่อความมั่นใจของพี่น้องประชาชน จึงมีการตรวจอย่างเข้มข้น โดยวิธีการตรวจแบบสแกนแบบนี้

สำหรับนักท่องเที่ยวจากยุโรปเป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพ ในแต่ละวันมีการใช้จ่ายไม่น้อยกว่า 6,000 บาทต่อคนซึ่งมีจำนวน 400 กว่าราย ซึ่งจะมีเงินที่สะพัดในจังหวัดภูเก็ต กว่า 3,000,000 บาท อย่างไรก็ตามขอฝากถึงพี่น้องประชาชนในเรื่องของการรับข้อมูลข่าวสารต่างๆที่เป็นเฟค นิวส์ (Fake news) หรือข่าวปลอม คิดว่าไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติและจังหวัดภูเก็ต ขอให้ประชาชนมีความมั่นใจอย่าวิตกกังวล เนื่องจากกลุ่มนักท่องเที่ยวเรือสำราญก็มีการควบคุมและคัดกรอง เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID 19) อย่างมีมาตรฐาน มีการตรวจวัดไข้ทุกวันก่อนจะลงเรือและมีการเซ็นรับรองจากแพทย์ที่ประจำอยู่บนเรือ

ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตก็จะมีการตรวจคัดกรองอีกครั้งหนึ่งเพื่อความมั่นใจอย่างสูงสุด เพราะฉะนั้นพี่น้องประชาชนสบายใจได้ และจากกระแสข่าวที่ว่าเรือลำนี้เข้าสิงคโปร์ไม่ได้จึงมาแวะจอดที่ภูเก็ตนั้นไม่ใช่ความจริง เป็นข่าวปลอมทั้งสิ้น เพราะเรือลำนี้มีแผนการเดินเรืออยู่แล้วตามกำหนดขั้นตอน คือ ถึงเวลามาจอดเข้าท่าที่ภูเก็ตในวันนี้ โดยเรือได้แวะที่แหลมฉบัง และเกาะฮ่องกง แล้วเรือจะกลับไปที่สิงคโปร์ตามกำหนดการในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้

ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตกล่าวเพิ่มเติมว่า ในเดือนกุมภาพันธ์จะมีเรือสำราญเข้ามาทั้งสิ้น 17 ลำ โดยเดือนมกราคมที่ผ่านมามีประมาณ 16 ลำ ซึ่งได้ดำเนินการคัดกรองตามมาตรฐานอนามัยโลกและข้อสั่งการของกระทรวงสาธารณสุข และดำเนินการทุกวันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของท่าอากาศยาน ท่าเทียบเรือ โดยกรมเจ้าท่ามีมาตรการการดูแลในเรื่องของราวจับราวสะพานในที่ต้องสัมผัสจะมีมาตรฐานควบคุมตลอดไปจนกว่ากระทรวงสาธารณสุขจะประกาศผ่อนคลายต่อไป

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

 

 

ด้าน พลเรือโทเชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวว่า ทัพเรือภาคที่ 3 มีเขตรับผิดชอบฝั่งทะเลอันดามัน โดยได้จัดเตรียมกำลังพลบูรณาการร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดต่างๆ ที่เป็นสถานที่ที่ เข้าออกของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ในทุกเส้นทางทั้งทางเครื่องบินหรือท่าเรือหรือท่าเรือชายแดนต่างๆ ก็ได้รับการคัดกรองโดยเจ้าหน้าที่ทหารเรือและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกสถานที่ สำหรับกรณีที่เรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่ เข้ามาในจังหวัดภูเก็ตปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในจังหวัดภูเก็ตเป็นจำนวนมากเฉลี่ยประมาณเดือนละประมาณ 15 ลำตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา

โดยจังหวัดภูเก็ตมีการทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่สาธารณสุข กองทัพเรือและกรมเจ้าท่าและทางตำรวจท่องเที่ยวเพื่อร่วมคัดกรองผู้โดยสารที่ลงมาจากเรือสำราญทั้งที่ท่าเรือน้ำลึกแลอ่าวป่าตอง โดยเน้นมาตรฐานการคัดกรองตามมาตรฐานนานาชาติ คือหากพบผู้ที่มีไข้สูงก็จะมีการแยกแยกส่วนเพื่อตรวจในรายละเอียดอีกครั้งหนึ่งหากพบว่าเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มเสี่ยงก็จะมีมาตรการในการส่งไปตรวจรักษาให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีนักท่องเที่ยวที่ติดเชื้อกลุ่มเสี่ยงเข้ามาในประเทศไทย

ด้าน นายวิวัธน์ ชิดเชิดวงศ์ ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ระบุว่า จ.ภูเก็ตจะเรือสำราญขนาดใหญ่เดินทางเข้ามาจอดเทียบท่าที่ภูเก็ต อย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยเดือนละ 17 ลำ และในช่วงตั้งแต่วันที่ 13 – 15 ก.พ.2563 นี้ จะมีเรือสำราญเดินทางเข้ามา 4 ลำ ประกอบด้วย วันที่ 13 ก.พ. เวลา 07.00 น. เรือชื่อ SEABOURN OVATION มาจากฮ่องกง-มาเลเซีย-ไทย กำหนดมาเทียบท่าที่ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต และเวลา 10.00 น.เรือชื่อ Quantum of the Seas เส้นทางภูเก็ต-ปีนัง-สิงคโปร์-ภูเก็ต กำหนดมาเทียบท่า บริเวณชายหาดป่าตอง วันที่ 14 ก.พ. เวลา 12.30 น เรือ Celebrity Consteellation และวันที่ 15 ก.พ. เวลา 05.30 น ชื่อ STAR CLIPPER จะเข้ามาเทียบท่าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตด้วย

ซึ่งทางจังหวัดและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันวางแผนจัดเตรียมกำลังคนเครื่องมืออุปกรณ์ที่จะดำเนินการในการคัดกรองนักท่องเที่ยวให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพเพื่อให้การป้องกันและควบคุม การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเป็นไปตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆของจังหวัดภูเก็ตก็ได้มีการพูดถึงการเข้ามาเทียบท่าของเรือสำราญดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ทั้งในส่วนที่ไม่เห็นด้วยและมีความกังวล และอีกส่วนก็เห็นด้วยแต่ต้องมีมาตรการคัดกรองที่เข้มข้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image