เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(รอง ผบช.สตม.) ในฐานะ โฆษก สตม. , พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รองโฆษก สตม. , พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รองโฆษก สตม. และ พ.ต.อ.หญิง เอกอาภา ตันศิริ รองโฆษก สตม. ร่วมกันเปิดเผยว่า ทาง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. สั่งการให้ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 (ผบก.ตม.3) ที่รับผิดชอบ ตม.จังหวัดในภาคกลางทั้งหมด ให้ติดตามสถานการณ์เรือสำราญ “เวสเตอร์ดัม” ที่ทางการไทยไม่อนุญาตให้เข้าเทียบท่าที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี และได้เปลี่ยนไปเข้าที่ท่าเรือประเทศกัมพูชาแทน
ทั้งนี้ เพื่อให้เตรียมการในกรณีที่เมื่อผู้โดยสารในเรือดังกล่าวจะลงจากเรือ แล้วขึ้นฝั่งที่ประเทศกัมพูชา และอาจเดินทางเข้ามาทางบก หรือทางอากาศเข้าสู่ประเทศไทย โดยเฉพาะทางบกที่อาจเข้ามาทางด่านชายแดนที่มีเขตติดต่อระหว่างประเทศกัมพูชากับประเทศไทย เช่น ตม.จว.สระแก้ว จันทบุรี ตราด เป็นต้น
“หากเดินทางผ่านเข้ามาเข้าช่องทางของ ตม.ที่กำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นทาง บก น้ำ อากาศ จะต้องมีการผ่านการตรวจและคัดกรองจากเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข และแพทย์ตรวจคนเข้าเมืองในเบื้องต้นเสียก่อน โดยจะต้องมีการวัดอุณหภูมิเบื้องต้น และสังเกตอาการ หากพบผิดปกติต้องเข้าสู่กรรมวิธีคัดกรองของแพทย์ต่อไป โดยขณะนี้ได้ประสานกับหน่วยที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจรับรายชื่อผู้โดยสารดังกล่าวในกรณีที่มีการเดินทางเข้ามาประเทศไทย โดย สตม.ได้นำรายชื่อผู้โดยสารและลูกเรือทุกคนลงเป็นบุคคลเฝ้าระวัง หรือ watchlist พร้อมให้แพทย์ตรวจบุคคลดังกล่าวโดยละเอียด ในฐานข้อมูลตรวจคนเข้าเมืองระบบไบโอเมทริกซ์แล้ว แต่จากการตรวจสอบก่อนที่ผู้โดยสารในเรือลำดังกล่าวจะลงมาจากเรือ จะต้องมีการตรวจสอบจากประเทศดังกล่าวก่อนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการตรวจอุณหภูมิในเบื้องต้น หรือการกักตัวไว้ตรวจสอบบนเรือ หรือตามระยะเวลาที่ต้องอยู่บนเรือ หรือพบแพทย์ตามอาการ” โฆษก สตม.กล่าว
โฆษก สตม. กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวลใจ ทาง สตม.ได้สั่งการให้เตรียมพร้อมในส่วนที่มีอำนาจหน้าที่ และในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ สตม.ไว้หมดแล้ว ทุกขั้นตอนพร้อมปฏิบัติ โดยทาง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.ได้สั่งการให้ตั้งวอร์รูมทุกวัน เวลา 09.00 น. เพื่อตรวจสอบข้อมูลต่างๆทั้งในด้านเชิงบวกเชิงลบในสถานการณ์ทั้งของประเทศไทย และต่างประเทศ โดยหากประชาชนผู้ใดมีเหตุการณ์สำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์ไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 ที่อาจจะเกี่ยวข้องอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ สตม. สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน สตม.1178 หรือที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองทุกที่ในเขตนั้นๆ หรือติดต่อเว็บไซต์ สตม. www.imigration.go.th ได้ทันที
