วันที่ 23 กุมภาพันธ์ นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาสมาคมฯได้รับการร้องเรียนจากผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านต่างๆ บริเวณด้านทิศเหนือและใต้ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิว่า นับตั้งแต่สนามบินสุวรรณภูมิเริ่มเปิดดำเนินการตั้งแต่ปี 2547 ถึงปัจจุบัน ยังไม่ได้รับการชดเชยเยียวยาแก้ไขปัญหาจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย (มหาชน) หรือ ทอท. เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากมลพิษเสียงดังรบกวนและการสั่นสะเทือนของตัวบ้าน จากการบินขึ้นและร่อนลงรันเวย์ของเครื่องบินหลายสายการบินขึ้นลงสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งส่งผลถึงการใช้ชีวิตประจำวันและปัญหาสุขภาพ ขณะที่กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เคยทำการตรวจวัดระดับเสียงเมื่อปี 2558 พบว่ายังมีระดับเสียงอยู่ระหว่าง 77-81 เดซิเบล สูงกว่ามาตรฐานระดับเสียงที่กำหนดไว้ต้องเฉลี่ยทั้งวันไม่เกิน 70 เดซิเบล และกฎหมายแรงงาน กรมสวัสดิการแรงงานระบุว่า ลูกจ้างที่ได้รับเสียงดังติดต่อกัน 8 ชั่วโมงต่อวัน ระดับเสียงที่ได้รับติดต่อกันต้องไม่เกิน 80 เดซิเบล ซึ่งปัญหานี้ปัจจุบันยังไม่ได้รับการแก้ไข
“ทอท.ยังไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรการและเงื่อนไขท้ายรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอ. ที่กำหนดว่าจะต้องติดตั้งเครื่องตรวจวัดเสียงจำนวน 13 สถานี เพื่อทำการตรวจวัดเสียงอย่างถาวรรอบสนามบิน เพื่อนำผลการตรวจวัดมาทำการประเมินกำหนดมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหา แต่ปรากฏว่าเครื่องตรวจวัดดังกล่าวเกิดปัญหาชำรุดบ่อยครั้ง และไม่มีการซ่อมแซมแก้ไข ทำให้ไม่สามารถตรวจเก็บข้อมูลเพื่อรายงานผลได้ ชี้ให้เห็นว่า ทอท.ฝ่าฝืนการปฏิบัติตามเงื่อนไขของอีไอเอ. กรณีนี้จะมีผลต่อการให้ความเห็นชอบของคณะกรรมการผู้ชำนาญการ หรือ คชก. ที่จะต้องไม่ให้การเห็นชอบรายงานอีไอเอ. การขยายสนามบินในเฟส 3 ที่ ทอท.ส่งเรื่องให้ คชก.พิจารณาอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งการจัดทำรันเวย์ที่ 3 ก็จะไม่สามารถทำได้ด้วย” นายศรีสุวรรณกล่าว
นายศรีสุวรรณกล่าวว่า ขณะนี้มีบ้านเรือนประชาชนจำนวนมากที่อยู่ในเส้นเสียง NEF 30-40 และชุมชนที่อยู่ระหว่างกึ่งกลางแนวขึ้น-ลงของสนามบินด้านหัวและท้ายสนามบิน ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาหรือชดเชยเยียวยาในการรับซื้อคืนบ้านเรือนของประชาชนดังกล่าว ซึ่งมีไม่ถึง 10% เท่านั้น แต่ ทอท.ก็ยังใช้เล่ห์บ่ายเบี่ยงจะไม่รับซื้อบ้านเรือนชาวบ้านเพื่อแก้ไขปัญหาให้ลุล่วง ทั้งที่คณะกรรมการบอร์ดได้อนุมัติให้ดำเนินการรับซื้อได้แล้ว หากปัญหานี้ ทอท.ไม่แก้ไข ให้ลุล่วงเด็ดขาด จะมีผลต่อโครงการขยายสนามบินเฟส 3 โดย คชก.จะไม่สามารถให้ความเห็นชอบรายงานอีไอเอ.ฉบับขยายสนามบินในเฟส 3 ได้เพราะของเก่ายังแก้ไขปัญหาไม่จบ แต่หากยังดื้อดึงที่จะให้ความเห็นชอบ สมาคมฯและชาวบ้านจำเป็นจะต้องนำความขึ้นฟ้องร้องต่อศาลปกครองและศาลทุจริตคอร์รัปชั่น ฐานใช้อำนาจโดยมิชอบและละเลยการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
