เหยี่ยวถลาลม : มนต์อสูร

ทุกคนมีที่มาต่างกัน ดวงตาที่แลเห็น มุมที่เลือกมอง ความคิดความเชื่อที่มีต่อเรื่องราวต่างๆ จึงต้องไม่เหมือนกันเป็นธรรมดา ทั้งยังเป็นอย่างนี้มาช้านาน

ผู้มี “ยศ” จากทหารจึงกล้าจะกล่าวกลางสภาเตือนคนอื่นว่า จงให้เกียรติกับทหารตำรวจ ซึ่งมี “ยศ” ส่วน “พลเรือน” จะเรียกกันว่าอะไร อย่างไรก็ว่ากันไป

ทำเอา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาผู้มีศักดิ์เป็น “พลเรือนเต็มขั้น” ซึ่งผ่านพบประสบการณ์มากว่า 80 ร้อน 80 ฝน เคอะเขิน จนต้องกล่าวว่า “สำหรับผมขอเพียงไม่เรียกว่า ไอ้ ก็พอ”

ฮาครืนไปทั้งรัฐสภา !

Advertisement

รัฐธรรมนูญไทยทุกฉบับใช้แต่คำว่า “ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์”

ไม่เคยจำแนกแยกชนชั้นของปวงชนชาวไทยด้วย “ชั้นยศ” !

ตลกสิ้นดี ถ้าจะมีการอวดอ้างจนกระทั่งทำให้ “กระพี้” บัง “แก่น”

Advertisement

ที่ควรจะ “คิด” และให้คำตอบกับรัฐสภาคือ ความสามารถในการบริหารประเทศของรัฐบาลที่จำแลงร่างมาจาก “คสช.” นี้ได้ทำคุณอันใดแก่ประเทศในด้านการพัฒนาทางเศรษฐกิจ การเมือง การศึกษา การสาธารณสุข การค้าการพาณิชย์ อุตสาหกรรม และการยุติธรรม

ที่ประชาชนโดยทั่วไปควรจะสงสัย โดยไม่จำกัดฝ่ายคือ คำถามจาก “สุทิน คลังแสง” ส.ส.มหาสารคาม ที่ว่า

“มีบริษัทใหญ่เพียง 5% ครองรายได้ถึง 95% และมีบริษัทเล็ก 95% ครองรายได้เพียง 5% เทียบได้กับการแย่งเศษเนื้อข้างเขียง”

ใช่หรือไม่ว่า “ทุน” กับ “ปืน” ยังคงยืนยงและยั่งยืนบนกระดานการเมืองไทยไม่เปลี่ยนแปลง

แล้วอะไร คือ ประโยชน์ของชาติ

“สุทิน” ถึงกับเปรียบเปรย การบริหารจัดการเศรษฐกิจมหภาคในวันนี้เหมือนกับเปิดประตูให้ “เสือ” บุกเข้าไปถึงห้อง “เนื้อสด” พลเมืองที่ไร้น้ำยาหรือรากหญ้าที่ถูกมองว่า “ไม่จ่ายภาษี” ไม่มีส่วนร่วมเลย

นำไปสู่สำนวนใหม่ เอกชน+รัฐบาล (ชุดนี้) กลายเป็น “เอกรัฐ” อันหมายถึง 24 กลุ่มทุนที่หนุนหลัง

บนโต๊ะอาหาร จึงมีแต่เพียงเอกชนหยิบมือเดียวกับผู้มียศศักดิ์ที่ทรงอิทธิพล บงการและขับเคลื่อนมาเกือบจะครบ 6 ปี ที่อิ่มหมีพีมัน

ความเหลื่อมล้ำและข้นแค้นพอกพูน

ช่างเหลือเชื่อจริงๆ ถ้าในวันนี้ยังอ่านกันไม่ออก และยังหลงเชื่อว่า “อีกไม่นาน แผ่นดินที่งดงามจะกลับคืนมา” !?!!

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image