เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 มี.ค. ที่ห้องพิจารณาคดี 703 ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ ผบ.1570/2562 ที่ นางคำหล้า อินดาวง สัญชาติลาว โดยนางอะพิสอน อินดาวง ผู้รับมอบอำนาจ เป็นโจทก์ฟ้อง นางสาวเซปิง ไชยศาส์นกับพวกรวม 4 คน เป็นจำเลย 1-4 ฐานละเมิด เรียกค่าสินไหมทดแทน 6,885,000 บาทตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 และ พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2559
คดีนี้โจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 17 เม.ย.62 โจทก์เป็นเจ้าของร้านนวดที่ประเทศเยอรมนี ที่ได้รับความเสียหายจากการศัลยกรรมเชื่อว่าจะทำหน้าให้เด็กลง กรณีสืบเนื่องจากโจทก์ได้ดูโฆษณาผ่าน YouTube และเว็บไซต์ของจำเลยที่ 1 เมื่อเดือน ต.ค. 2560 แล้วหลงเชื่อคำโฆษณาที่ว่าผ่าตัดดึงหน้า ไร้รอยแผลเป็น ไม่เจ็บ หน้าจะเด็กอายุลง 44 ปีจะเหลือ 20 ปี มีการโอนเงินค่าจองคิวเข้าร่วมโครงการและค่าใช้จ่ายผ่าตัดดึงหน้า 3 จุดกับดึงหนังที่ห้อยบริเวณคางและคอ ค่าผ่าตัดรวม 385,000 บาทหลังจากผ่าตัดปรากฏว่าเกิดรอยแผลเป็นนูน มีอาการเจ็บแสบคันและร้อน, เป็นเชื้อราบนหนังศีรษะ, วิงเวียนศีรษะบ่อย กับตาพร่ามัว ซึ่งปัจจุบันโจทก์หน้าตาเสียหาย อับอายผู้คน ทำงานแบบไม่มีความสุข ฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนจากการกระทำละเมิด และค่าเดินทางดำเนินคดี, ค่าเสียอิสรภาพ , ค่าขาดรายได้ในชีวิตประจำวันในการประกอบธุรกิจที่ประเทศเยอรมนี รวมเป็นเงิน 6,885,000 บาท
ศาลพิจารณาคลิปโฆษณาซึ่งมีการเผยแพร่ออกสู่สาธารณชน ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้สัมภาษณ์ผู้เข้าร่วมโครงการเฟซออฟ ที่มีเนื้อหาอันเป็นการโฆษณาเกินความเป็นจริง เป็นการใช้ข้อความที่เป็นการไม่เป็นธรรม ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับการบริการ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 มาตรา 22
พิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงิน 5 หมื่นบาทพร้อมดอกเบี้ย 7.5 ต่อปี นับต้องแต่วันฟ้อง ส่วนจำเลยที่ 2-4 ศาลพิพากษายกฟ้อง
ภายหลังนายภิญโญภัทร์ ชิดตะวัน ทนายความโจทก์กล่าวว่า ยอมรับคำตัดสินของศาล แต่ไม่อาจเห็นพ้องต่อคำพิพากษาด้วยในบางส่วน และด้วยความเคารพต่อคำพิพากษาของศาล แต่เห็นว่า ค่าเยียวยา ยังไม่คุ้มกับความเสียหายที่โจทก์ได้รับและยังไม่ได้รับค่าเสียหายเชิงการลงโทษ จึงต้องขอใช้สิทธิ์อุทธรณ์ในส่วนนี้ต่อไป คดีนี้ผู้เสียหายเป็นชาวต่างชาติที่ได่รับผลกระทบจากการโฆษณาเกินจริง โจทก์ในคดีนี้ลำบากมากที่จะต้องมาดำเนินการต่อสู้คดีในประเทศไทย
