ความคืบหน้าคดีนางมณตา หยกรัตนกาญ หรือ หญิงไก่ ถูกตำรวจกองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) ส่งฟ้องในฐานความผิดข้อหาแจ้งความเท็จ พยายามค้ามนุษย์ และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ภายหลังศาลไม่ให้ประกันตัว ก่อนนำตัวไปควบคุมที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ส่วนผู้เสียหายที่ถูกนางมณตาแจ้งความเท็จในคดีลักทรัพย์นายจ้างที่ สน.ประชาชื่น ได้เดินทางเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่รับคดี หลังพบความผิดปกติ
ขณะที่เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ทางนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความ ในฐานะ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เดินสายมอบข้อมูลบุคคลใกล้ชิด “หญิงไก่” ที่สูญหายไร้ร่องรอยอย่างน้อย 2 รายกับตำรวจหลายหน่วยงาน มีทั้งคนขับรถคนสนิท และเศรษฐินีเจ้าของที่ดินใน จ.อุดรธานี ที่ “หญิงไก่” อ้างเป็นลูกบุญธรรมของสามีเก่าขอซื้อที่ดินทำคอนโดมิเนียม แล้วพาไปอยู่ด้วย ก่อนหายตัวไปอย่างลึกลับ เมื่อญาติถามกลับบอกว่าเสียชีวิตแล้วอยู่ระหว่างตรวจสอบเป็นฆาตกรรมอำพรางหรือไม่ ขณะเดียวกันพบข้อมูลว่าหญิงไก่เคยจดทะเบียนสมรส แล้วหย่าร้างกว่า 6-7 ครั้งในรอบ 30 ปีนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม รายงานข่าวจากบก.ป.แจ้งว่า สำหรับคดีของนางไก่ ที่ถูกดำเนินคดีในมาตรา 112 นั้น มีพยานปากสำคัญ เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน พร้อมมอบหลักฐานที่เชื่อมโยงกับพฤติกรรมของหญิงไก่ ว่าเข้าข่ายหมิ่นสถาบัน โดยมักแอบอ้างว่า มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับเบื้องสูง รวมทั้งได้เปิดบริษัทธุรกิจเกี่ยวกับการทำหวย ชื่อบริษัท ริชชัวร์ 111 (RICHSURE 111) ตั้งอยู่เลขที่ 159/4 ถนนเทศบาลนิมิตรเหนือ 34 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร ขณะนี้ปิดทำการแล้ว ทั้งนี้ในระหว่างที่นางไก่เปิดบริษัทดังกล่าว พยานปากสำคัญเล่าว่านางไก่มักอวดอ้างว่ามีญาณวิเศษสามารถให้เลขเด็ดได้ แต่ต้องมีค่าใช้จ่าย รวมทั้งได้ประกาศผ่านเพจในเฟซบุ๊ก ชื่อเพจ “รวยแน่นอน” อวดอ้างสรรพคุณการใบ้หวย โดยใช้ชื่อท่านแม่สุชาดา มีผู้หลงเชื่อจำนวนมาก อีกทั้งหลังเกิดเรื่องได้ปิดตัวลง และยังมีพฤติกรรมการจ่ายเช็คเด้งเป็นค่าเช่าบริษัทให้กับทางเจ้าของอาคารอีกด้วย ทั้งนี้หลังนำเสนอข่าวการจับกุมนางไก่แพร่ออกไปนั้น มีผู้เสียหาย และพยาน เดินทางเข้าให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายราย
