ความคืบหน้าคดีนางมณตา หยกรัตนกาญ หรือหญิงไก่ ถูกตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ดำเนินคดีข้อหาแจ้งความเท็จ พยายามค้ามนุษย์ และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ก่อนนำตัวไปควบคุมที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ส่วนผู้เสียหายที่ถูกนางมณตาแจ้งความเท็จในคดีลักทรัพย์นายจ้างที่ สน.ประชาชื่น เข้าให้ข้อมูลกับ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่รับคดีหลังพบความผิดปกติจนกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ตั้งคณะกรรมการขึ้นสอบสวนข้อเท็จจริง นอกจากนี้ นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มอบข้อมูลบุคคลใกล้ชิดหญิงไก่ที่สูญหายไร้ร่องรอยอย่างน้อย 2 รายกับตำรวจ มีทั้งคนขับรถคนสนิทและเศรษฐินีเจ้าของที่ดินใน จ.อุดรธานีนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ที่ บก.ป.รายงานข่าวแจ้งว่า พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รอง ผบก.ป. พร้อมคณะทำงานสอบสวน บก.ป.ได้ตรวจสอบประวัติของนางไก่ ว่ามีภูมิลำเนาอยู่ที่ไหน มีบิดามารดาเป็นใคร และเป็นพี่น้องกับนางกิมเอ็ง แซ่เตียว หรือดวงฤทัย จารุจินดา ผู้ต้องหาในคดีเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ถูกศาลพิพากษาจำคุกไปเมื่อปี 2530 จริงหรือไม่ ผลการตรวจสอบทราบว่าในทะเบียนราษฎรไม่มีการระบุชื่อบิดามารดาของนางไก่แต่อย่างใด เนื่องจากไม่มีเลขบัตรประชาชนของพ่อแม่ อีกทั้งตัวนางไก่เคยเปลี่ยนชื่อนามสกุลถึง 2 ครั้ง จึงทำให้การตรวจสอบประวัติที่แท้จริงค่อนข้างยาก ส่วนกรณีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของนางไก่ที่ก่อนหน้านี้พบว่ามีบัญชีธนาคารทั้งหมด 9 บัญชี ทั้งหมดมียอดเงินรวมกันไม่ถึง 1 แสนบาท ขัดแย้งกับการที่นางไก่ไปแจ้งความว่าถูกลูกจ้างลักทรัพย์ทองคำหนัก 400 บาท จึงกลายเป็นประเด็นเคลือบแคลงสงสัยจากสังคมว่านางไก่รวยจริงหรือไม่
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะที่ทาง พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ ผบช.ก. สั่งการให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ บก.ปอศ. ตรวจสอบเส้นทางการเงิน แหล่งรายได้ รวมถึงการชำระภาษี ว่านางไก่มีรายได้มาจากไหนบ้าง และมีธุรกิจอื่นนอกเหนือจากการประกอบกิจการคาร์แคร์อีกหรือไม่ ส่วนกรณีของนายสุนทร หรือโก้ ขันหิน อดีตคนขับรถส่วนตัวของนางไก่ที่หายตัวไป ก่อนที่ต่อมาจะทราบเบาะแสว่าไปอาศัยอยู่วัดนังคัลจันตรี ต.บึงคำพล้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ทางผู้บังคับบัญชา บก.ป.มอบหมายให้ พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ สว.กก.2บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ กก.2บก.ป.ลงพื้นที่เดินทางไปตรวจสอบที่วัดดังกล่าว พร้อมกับสอบถามพระลูกวัดจนได้ความว่า เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมานายโก้เคยมาอาศัยอยู่ที่วัดนี้จริง ทำหน้าที่เป็นคนขับรถให้เจ้าอาวาสวัด แต่ต่อมานายโก้ย้ายออกไปจากวัดมาสักระยะหนึ่งแล้ว
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า จากการตรวจสอบบริเวณวัดและห้องพักที่นายโก้เคยพักอาศัยอยู่ พบเพียงห้องที่มีการล็อกลูกกุญแจ แต่ไม่พบตัวนายโก้ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังออกสืบหาเบาะแสในพื้นที่สายไหม กทม. และคูคต จ.ปทุมธานี เนื่องจากมีผู้พบเห็นนายโก้อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่ติดต่อใกล้เคียงกับวัดนังคัลจันตรี ที่นายโก้เคยพักอาศัยอยู่ เพื่อเร่งติดตามหาตัวนายโก้มาเป็นพยานเกี่ยวกับพฤติกรรมของนางไก่ อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งประสานญาติและเพื่อนสนิทของนายโก้ว่าพักอาศัยอยู่ที่ใด และติดต่อกับใครบ้าง เพื่อเชิญตัวมาเป็นพยานในการคดีนางไก่ต่อไป
