‘ศานิตย์’แจงเด้งรอง สวป.บางรัก เพื่อความสบายใจ ระบุโทษ’เรียกรับ’คุก 5 ปี ปรับไม่เกินหมื่นบ.

จากกรณีที่มีการแจ้งความดำเนินคดีระหว่างตำรวจยศ ร.ต.อ. 2 นาย ซึ่งแจ้งความไว้ในพื้นที่ สน.บางซื่อ โดยมีใจความระบุว่า ฝ่ายผู้เสียหายได้ว่าจ้างตำรวจนายหนึ่งด้วยเงินจำนวน 7 แสนบาทเป็นค่าวิ่งเต้นตำแหน่ง “สารวัตร” แต่เมื่อถึงเวลา พิจารณาปรับเลื่อนตำแหน่ง ปรากฏว่าอีกฝ่ายไม่สามารถทำตามที่รับปากได้จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์เพื่อขอให้มีการดำเนินคดีทางกฎหมาย เหตุเกิดภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ริมถนนวิภาวดีรังสิต เขตพญาไท เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 กรกฎาคม ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. เปิดเผยว่า ได้มอบให้ พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 ในฐานะรับผิดชอบพื้นที่โรงพักที่มีเหตุ มอบให้ พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย ผบก.น.6 มอบให้ พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา ผบก.น.3 ไปตรวจสอบในฐานะที่ตำรวจทั้ง 2 นายอยู่ในสังกัด ทั้งหลายทั้งปวงโดยกำชับไว้แล้ว ว่าต้องพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง ให้เกิดความเป็นธรรม ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก พี่น้องประชาชนจะได้สบายใจว่า ข้อเท็จจริงพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นมันเกิดจากอะไร

พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า สำหรับเรื่องคำสั่งย้าย ร.ต.อ.ชนินท์ธัช รัตน์ชิโนตรัย รอง สวป.สน.บางรัก ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ บก.น.6 นั้น ขืนให้อยู่ในพื้นที่ต่อพี่น้องประชาชนอาจจะกังวลใจ ว่าให้อยู่แล้วอาจจะมีส่วนที่จะไปมีอะไรที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจให้แก่พี่น้องประชาชน ก็เอาออกมาก่อน เหมือนพนักงานสอบสวนประชาชื่นถ้าได้ข้อสรุปวันนี้คณะกรรมการส่งมาให้ตน ถ้าเอาไว้พี่น้องประชาชน รวมทั้งผู้เสียหาย ผู้กล่าวหาไม่สบายใจ ผิดถูกค่อยว่ากันออกมาก่อน เพื่อความสบายใจของทุกคน แล้วก็จะหาคนไปแทน เปลี่ยนหมุนเวียนกัน ก็ทำให้พี่น้องประชาชนสบายใจ ไม่เกิดความกังวลใจ

ถามว่า เมื่อมีการคืนเงินให้กับคู่กรณีแล้วจะถือว่าไม่มีความผิดหรือไม่ พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า กรณีนี้ถือว่าเป็นหลักฐานในตัวแล้วว่ามีการหลอกเงินเขาไปจริง มันมีข้อเท็จจริงเกิดขึ้นจริง แต่ว่าจะไปเข้าข่ายความผิดในลักษณะใดก็ต้องว่ากันไป ซึ่งตอนนี้มีเพียงข้อหาเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สิน มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท ในส่วนของคดีฉ้อโกงต้องให้ผู้เสียหายมาร้องทุกข์กล่าวหา หากยังไม่ร้องทุกข์ก็ดำเนินคดีไม่ได้

Advertisement

ส่วนกรณีที่พนักงานสอบสวนเรียกตัวคู่กรณีมาสอบปากคำ แล้วหากยังไม่มาพบนั้นประมวลกฎหมายอาญาเขียนไว้ชัดเจน ขัดหมายเรียกก็ต้องลงโทษตามระเบียบ เบื้องต้นทราบว่าอยู่ระหว่างลาราชการ แต่ก็ไม่สำคัญ เพราะว่าสามารถถอนใบลาได้ หากมีความจำเป็นที่ต้องเรียกกลับมา ก็ต้องกลับมาปฏิบัติหน้าที่ ใบลาก็ยกเลิกไป ก็ให้ผู้บังคับการทั้ง 3 คน ทำงานให้เต็มที่ กำชับไว้ว่าต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งหมดต้องไปตามความเป็นจริง ไม่บิดเบือน ผิดก็ว่ากันไปตามผิด นิ้วไหนร้ายต้องตัดทิ้ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image