จากปมปัญหาข้อขัดแย้งหลังเลือกเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) จน นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ อดีตรองเลขาฯ สปสช. ชวดตำแหน่งและเตรียมฟ้องร้องศาลปกครองเพิกถอนมติ เพราะเห็นว่าไม่เป็นธรรม ขณะเดียวกันขอให้มีการคุ้มครองชั่วคราว เพื่อชะลอการสรรหาเลขาธิการ และจะเตรียมฟ้องศาลอาญา เอาผิดถึงที่สุด จนเกิดข้อสงสัยว่า หลังจากนี้จะมีผลต่อกระบวนการสรรหาเลขาธิการใหม่ด้วยหรือไม่ หรือต้องสะดุดทั้งหมดนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) และประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(บอร์ดสปสช.) กล่าวภายหลังการเข้า หารือ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยเป็นการหารือด่วน ร่วมกันทั้ง นพ.ปิยะสกล นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะกรรมการบอร์ดสปสช. และนพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา รักษาการเลขาธิการสปสช. ว่า หลังจากมีประเด็น นพ.ประทีป เตรียมยื่นฟ้องศาลปกครอง เพื่อความถูกต้องทางกฎหมาย และเป็นการหาทางออกเรื่องนี้ จึงได้ขอเข้าพบนายวิษณุ เพื่อหารือเรื่องการเดินหน้าสรรหาเลขาธิการ สปสช. ซึ่งรองนายฯ ระบุว่า ให้เดินหน้าสรรหาต่อไป โดยเป็นไปตามมติบอร์ดสปสช.
“ผมถามว่า ขณะนี้ นพ.ประทีป ไปฟ้องจะทำให้เรื่องการสรรหาดีเลย์หรือไม่ ท่านบอกว่าไม่ขัดข้อกฎหมาย ให้ดำเนินการตามเดิม ส่วนกรณีหากศาลรับฟ้องและมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก็ค่อยว่ากันอีกที ดังนั้น สิ่งสำคัญ ผมขอให้เข้าใจกันดีกว่า ไม่ได้มีข้อขัดแย้งจนส่งผลต่อการทำงาน เพราะสปสช. ก็มี นพ.ศักดิ์ชัย เป็นรักษาการเลขาฯ อยู่ และผมก็บอกนพ.ศักดิ์ชัย ว่าเพื่อการช่วยงาน สามารถตั้งผู้ช่วยมาช่วยงานได้ เพื่อให้งานเดินหน้า เพื่อประโยชน์ต่อประชาชน” นพ.ปิยะสกล
ผู้สื่อข่าวถามว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า รัฐบาลรับทราบอยู่ แต่การเชื่อมโยงไร้ประโยชน์ ซึ่งก็พยายามให้ข้อมูลข้อเท็จจริงว่า การที่ไม่ได้คนที่กลุ่มหนึ่งมุ่งหวังนั้น ไม่ใช่การล้มระบบ เพราะระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เป็นของประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีบัตรดีบัตรเสีย รองนายกรัฐมนตรี มองอย่างไร นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า มติบอร์ดฯถือว่าโปร่งใสอยู่แล้ว เพราะมีการถ่ายทอดสด มีการบันทึกเทป ทุกอย่างไปตรวจสอบ ไปดูได้ ไม่มีปัญหา และตรงนั้นก็สามารถนำมาตีความได้ว่าถูกหรือไม่ ตนคิดว่าคนที่มีวิจารณญาณ เข้าใจเรื่องนี้ดี
เมื่อถามว่าปรากฎการณ์ดังกล่าวจะสะเทือนต่อประเด็นการตีความร่างรัฐธรรมนูญเนื้อหาด้านสุขภาพ จนส่งผลต่อการลงประชามติวันที่ 7 สิงหาคมนี้หรือไม่ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่าปัจจุบันประชาชนรู้มากขึ้น ว่า สิ่งใดถูกต้อง สิ่งใดไม่ถูกต้อง อะไรที่บิดเบือนก็คิดว่า ประชาชนทราบดีอยู่แล้ว และสื่อทั้งหลายต้องช่วยกันกระจายสิ่งที่ถูกต้องและเป็นธรรมด้วย
เมื่อถามอีกว่า การที่ท่านบอกว่ากลุ่มเห็นต่างเป็นการให้ข้อมูลบิดเบือน แสดงว่าอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายประชามติและเข้าข่ายบิดเบือนข้อมูลในร่างรัฐธรรมนูญด้วยหรือไม่ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องสอบถามนายวิษณุ ว่า กรณีที่พยายามบิดเบือนข้อมูลข้อเท็จจริงเรื่องบัตรทอง จะส่งผลทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อร่างรัฐธรรมนูญด้วยหรือไม่ หรือจะผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 ตนคงตอบไม่ได้
