ศรีสะเกษ ผู้การฯพอใจเคอร์ฟิว ประชาชนให้ความร่วมมือดีมาก หลังจับกุมไปแล้ว 13 ราย

เมื่อวันที่ 8 เมษายน พล.ต.ต.สันติ เหล่าประทาย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยหลังจากที่ได้ไปร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลเปลี่ยนผ้าไตรสรีระร่างหลวงปู่สรวง ปีที่ 20 ซึ่งวัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ โดยพระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา ได้นำคณะศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชนทั่วไป ร่วมกันจัดพิธีนี้ขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ตามที่ได้มีข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 2) ที่มีสาระสำคัญ คือ ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00 น. ถึง 04.00 น. เว้นแต่มีความจำเป็นตามที่กำหนดไว้นั้น ตนได้สั่งการให้สถานีตำรวจภูธรทุกแห่งในสังกัด ยกระดับการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และปฏิบัติการตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งได้ออกตรวจตามด่านตรวจทุกแห่งในเขตพื้นที่รับผิดชอบอย่างต่อเนื่อง

 

“จากการที่ไปตรวจทุกอำเภอแล้วปรากฏว่า ประชาชนส่วนใหญ่ได้ให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด อาจจะมีฝ่าฝืนบ้างก็มีเพียงเล็กน้อยส่วนใหญ่จะเป็นพวกวัยรุ่น ถ้าเจ้าหน้าที่ตรวจพบมีเหตุผลเพียงพอก็จะอนุโลมให้ แต่ถ้ามีการเจตนาฝ่าฝืนก็จะจับกุมทุกราย ตนขอฝากประชาชนชาวศรีสะเกษในเรื่องการปฏิบัติตามกฎหมายและเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยคนที่มาจากที่อื่นเข้ามาในเขตพื้นที่ศรีสะเกษ ขอให้ไปรายงานตัวต่อผู้นำหมู่บ้าน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม.และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลที่ตนเองเข้ามาในพื้นที่นั้น เพื่อที่จะได้เข้าสู่กระบวนการกักตัว 14 วัน แต่หากว่าท่านไม่บอกไม่ให้ข้อมูลเกิดเป็นอะไรขึ้นมาก็จะเอาไม่อยู่ ก็ขอให้ประชาชนที่เข้ามาในพื้นที่ได้ให้ข้อมูลที่แท้จริงกับเจ้าหน้าที่ ส่วนเรื่องการห้ามออกนอกเคหะสถานนั้น ทุกพื้นที่ให้ประชาชนให้ความร่วมมือดีมาก ประชาชนรับทราบและไม่มีปัญหาแต่อย่างใด โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ ตร.มีการจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวไปดำเนินคดีตามกฎหมายแล้วประมาณ 13 รายด้วยกัน”  พล.ต.ต.สันติ กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image