ป.ป.ส. สนธิกำลัง ปิดชุมชนสแกนนักค้า 25 จว.- 64 หมู่บ้าน ยึดทรัพย์แล้วกว่า 20 ล.

เลขาธิการ ป.ป.ส. ป้ายแดงเร่งสปีด ยุทธการหน้าบ้านปลอดภัย ลุยปิดล้อมชุมชน 25 จว. 64 หมู่บ้าน ผลปฏิบัติการ 5 ครั้ง จับผู้กระทำผิดคดียา กว่า 100 ราย ยึดทรัพย์แล้ว 20 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เปิดเผยว่า เมื่อช่วงที่ผ่านมา ได้สั่งการปฏิบัติการ “ยุทธการหน้าบ้านปลอดภัย” ครั้งที่ 5/2559 ภายใต้แผนประชารัฐร่วมใจ สร้างหมู่บ้านชุมชนมั่นคง ปลอดภัยยาเสพติด โดยให้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จัดชุดกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมสนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทหาร ตำรวจ ปกครอง ในพื้นที่ รวมทั้งสิ้น 1,084 นาย ดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้าน ชุมชนตามแผนประชารัฐร่วมใจ สร้างหมู่บ้านชุมชนมั่นคง ปลอดภัยยาเสพติดรวมทั้งสิ้น 64 หมู่บ้านชุมชน ใน 25 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร อ่างทอง สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี นนทบุรี ชลบุรี ยโสธร อุดรธานี นครพนม หนองคาย ลำพูน เชียงราย พิจิตร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สมุทรสาคร กาญจนบุรี สุพรรณบุรี เพชรบุรี สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ตรัง และพัทลุง เป็นเป้าหมายบุคคลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดรวม 227 ราย บุคคลทั่วไป 223 ราย เจ้าหน้าที่รัฐ 4 ราย เพื่อดำเนินการปราบปรามนักค้ายาเสพติดและผู้ที่เกี่ยวข้อง สร้างความปลอดภัยให้กับหมู่บ้านชุมชน ณ ศูนย์บัญชาการ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงาน ป.ป.ส.

นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)
นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)

นายศิรินทร์ยา กล่าวต่อว่า ยุทธการหน้าบ้านปลอดภัย เป็นมาตรการหนึ่งด้านการปราบปรามยาเสพติดภายใต้ “แผนประชารัฐร่วมใจ สร้างหมู่บ้านชุมชนมั่นคง ปลอดภัยยาเสพติด” ที่มุ่งหวังปราบปรามจับกุมและบังคับใช้กฎหมายกับนักค้ายาเสพติดและนำผู้เสพผู้ติดยาเสพติดในพื้นที่หมู่บ้านชุมชนเข้ารับการบำบัดรักษาฯ เพื่อลดการแพร่ระบาดของยาเสพติดและบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยดำเนินการอย่างต่อเนื่องและสรุปผลการปฏิบัติทุก 15 วัน

นายศิรินทร์ยา กล่าวว่า ปฏิบัติการยุทธการหน้าบ้านปลอดภัย ครั้งที่ 5 นี้ เป็นการบูรณาการกำลังร่วมจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ทหาร ตำรวจ ปกครองในระดับพื้นที่ โดยมีเป้าหมายบุคคล 227 ราย แบ่งเป็น เป้าหมายจากข้อร้องเรียนของประชาชนที่แจ้งมายัง สายด่วน สำนักงาน ป.ป.ส. หมายเลข 1386 จำนวน 138 เป้าหมาย จากการประชาคมของกลไกประชารัฐในระดับหมู่บ้านชุมชน 12 ราย และจากการสืบสวน การข่าว 77 ราย

Advertisement

S__21143562

นายศิรินทร์ยา กล่าวาอีกว่า ผลการปฏิบัติการยุทธการหน้าบ้านปลอดภัยครั้งที่ 5 สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดได้ 111 ราย จำแนกเป็นกรณีครอบครองเพื่อจำหน่าย 23 ราย ครอบครองยาเสพติด 6 ราย และเสพยาเสพติด 82 ราย สามารถจับกุมข้อหาคดีอาวุธปืน 4 ราย ยึดของกลางเป็น ยาบ้า 9,416 เม็ด ไอซ์ 17.40 กรัม กัญชา 5 กรัม ยาแก้ไอ 455 ขวด อาวุธปืน 21 กระบอก กระสุนปืน 59 นัด และยึดอายัดทรัพย์สินได้จำนวนหนึ่ง รวมผลการปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้านชุมชนไปแล้วกว่า 422 แห่ง สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 685 ราย ผู้ค้า 252 ราย ผู้เสพ 433 ราย ยึดของกลางยาบ้า 282,333 เม็ด ไอซ์ประมาณ 11.18 กิโลกรัม เฮโรอีน 7 กรัม กัญชา 1,356 กรัม คีตามีนผง 22 กรัม คีตามีนน้ำ 7 ขวด ยาแก้ไอ 570 ขวด วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิต และประสาท 3,557 เม็ด ต้นกัญชา 1 ต้น อาวุธปืน 73 กระบอก โดยทำการยึดทรัพย์สินมีมูลค่ารวมประมาณ 28.6 ล้านบาท

72812

Advertisement

นายศิรินทร์ยา กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้กำชับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติให้ทำความเข้าใจกับประชาชนในชุมชน และประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือจากภาคประชาชนและคนในชุมชนในการแจ้งเบาะแสยาเสพติด ผ่านสายด่วน ป.ป.ส. 1386 เพื่อร่วมกันเป็นหูเป็นตากับภาครัฐในการร่วมป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน และส่งเสริมให้เกิดกลไกประชารัฐที่เข้มแข็งและจริงจัง นอกจากนั้นยังกำชับให้เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ส. ภาคทั้ง 10 ภาคทั่วประเทศ ดำเนินการปรับแผนประชารัฐ โดยเน้นหนักใน 3 มาตรการหลัก คือ ด้านการปราบปรามยาเสพติด ด้านการป้องกันยาเสพติด และด้านการบำบัดรักษาฟื้นฟูผู้เสพผู้ติดยาเสพติด และสั่งการให้ดำเนินการคัดกรองแยกกลุ่มผู้เสพผู้ติดยาเสพติด ออกจากผู้ค้ายาเสพติดทั้งรายย่อยและรายสำคัญ ในทุกครั้งที่ดำเนินยุทธการหน้าบ้านปลอดภัยและปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่เป้าหมาย และดำเนินการส่งต่อผู้เสพผู้ติดยาเสพติดเข้าสู่ระบบการบำบัดรักษาฟื้นฟูฯ ที่เหมาะสมต่อไป สำหรับผู้ค้ายาเสพติดทั้งรายใหญ่และรายย่อยต้องดำเนินการสืบสวนขยายผลไปถึงตัวการสำคัญให้ได้ ต้องดำเนินการยึดทรัพย์สิน เพื่อตัดวงจรทางการเงินของการค้ายาเสพติด และการลงโทษผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดต้องได้สัดส่วนและสมดุลกับพฤติกรรมในการกระทำความผิด โดยนักค้ารายใหญ่ต้องถูกลงโทษอย่างจริงจัง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image