เน้นยุทธศาสตร์ ‘สกัดนักสูบหน้าใหม่’ ตั้งเป้าลดผู้สูบเหลือร้อยละ 16.7

เน้นยุทธศาสตร์ ‘สกัดนักสูบหน้าใหม่’ ตั้งเป้าลดผู้สูบเหลือร้อยละ 16.7 

 

พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด สสส.ว่า ที่ประชุมเห็นชอบโครงการสนับสนุนการดำเนินงานควบคุมยาสูบของเขตจังหวัด ตามที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)เสนอ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานควบคุมยาสูบตามแผนยุทธศาสตร์การควบคุมยาสูบแห่งชาติ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2559-2562 สนับสนุนเขตและจังหวัดให้มีการขับเคลื่อนการดำเนินงานควบคุมยาสูบในพื้นที่ ตามแนวทางของแผนยุทธศาสตร์ และเพื่อติดตามความสำเร็จจากการดำเนินงาน ปัญหา และอุปสรรคตามแผนยุทธศาสตร์ฯ โดยมีมาตรการระดับจังหวัด ได้แก่ 1.การเสริมสร้างความเข้มแข็ง อาทิ การพัฒนาโครงการและกลไกการควบคุมยาสูบ กำหนดเป้าหมาย แผนงานของพื้นที่ 2.สร้างสิ่งแวดล้อมปลอดควันบุหรี่ 3.พัฒนาระบบและบุคลากรช่วยเลิกยาสูบ และ 4.การป้องกันผู้สูบรายใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน ในการสร้างความตระหนักรู้ถึงโทษของการสูบบุหรี่ พัฒนาสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการไม่สูบบุหรี่ โดยสธ.ได้ตั้งเป้าหมายระยะ 3 ปี (ปี 2560-2562) ที่จะลดอัตราผู้สูบเหลือ ร้อยละ 16.7 จากปัจจุบันจำนวนผู้สูบบุหรี่ของประชากรไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปที่อยู่ที่ร้อยละ 19.9 และลดอัตรารับควันบุหรี่มือสองลงร้อยละ 25

“ตลอดระยะเวลาการทำงานของ สธ., สสส. และภาคีเครือข่าย สามารถดำเนินการลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ ทำให้อัตราการสูบบุหรี่ลดลง ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์สำคัญที่ สสส.จะต้องเน้นหนักคือ การทำอย่างไรไม่ให้เกิดผู้สูบหน้าใหม่ เพราะคนสูบแล้วโอกาสจะเลิกยากกว่า ไม่คุ้มกับการลงทุน จึงมอบนโยบายให้ สสส. เน้นลงทุนไปที่การสกัดกั้นนักสูบหน้าใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเยาวชน เห็นตัวอย่างจากคนในครอบครัวหรือสภาพแวดล้อมรอบตัว ดังนั้นทำอย่างไรที่จะไปสร้างสภาพแวดล้อมที่ป้องกัน หากเน้นจุดนี้อนาคตจำนวนผู้สูบก็จะลดลงเรื่อยๆ” พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าว

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image