เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ นายอภินันท์ โปษยานนท์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมคณะอนุกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ส่งเสริมภาษาไทย ได้หารือเกี่ยวกับการจัดระเบียบป้ายโฆษณาตามสถานที่สาธารณะต่างๆ มากมาย จนแทบเรียกได้ว่าไทยเป็นประเทศที่มีป้ายโฆษณามากที่สุดในโลก โดยเฉพาะป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ติดตั้งข้างถนนและบนทางด่วน ทั้งนี้ ป้ายโฆษณาจำนวนมากมีการใช้ภาษาที่ผิดเพี้ยน อีกทั้งเนื้อหาหรือภาพที่นำเสนอล่อแหลม แต่เมื่อถามหาผู้รับผิดชอบด้านเนื้อหา กลับไม่พบหน่วยงานใดๆ ตรวจเนื้อหาหรืออนุญาตให้เผยแพร่ป้ายโฆษณาได้ มีแต่หน่วยงานที่ดูแลเรื่องความปลอดภัยของโครงสร้างป้ายโฆษณาเท่านั้น ปลัดวธ. กล่าวต่อว่า มิติของการโฆษณานั้น คือ การกระหน่ำนำเสนอให้ผู้รับสื่อติดตาและจดจำได้ และต้องเลือกติดตั้งป้ายโฆษณาในจุดที่มีคนผ่านเป็นจำนวนมาก ซึ่งในจำนวนนั้น ก็มีเด็กและเยาวชนรวมอยู่ด้วย ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องพิจารณาเรื่องความเหมาะสมของภาษา เนื้อหา และภาพที่นำเสนอ โดยเฉพาะป้ายโฆษณาเป็นสื่อที่อยู่ในที่สาธารณะ ดังนั้นในที่ประชุมจึงเล็งเห็นว่าถึงเวลาที่ต้องสังคายนาป้ายโฆษณาเสียที เพราะขณะนี้ยังไม่สามารถควบคุมเนื้อหาได้ “วธ.ต้องระดมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมหารือกันเพื่อดูว่าจะมีช่องทางใดที่จะควบคุมดูแลเนื้อหาบนป้ายโฆษณาได้หรือไม่ ทั้งนี้ การควบคุมนั้นจะไม่ถึงขั้นเซ็นเซอร์เนื้อหาลักษณะเดียวกับภาพยนตร์ แต่อาจจะเป็นการแนะนำให้ปรับปรุงเนื้อหาให้เหมาะสมขึ้น นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีการนำเสนอว่า ควรมีการชิงพื้นที่โฆษณากลับมาเพื่อใช้นำเสนอเรื่องที่ดีๆ แทรกเข้าไปอยู่ท่ามกลางการโฆษณาสินค้าต่างๆ บ้าง โดยทำในลักษณะนำเสนอผลงานของศิลปินแห่งชาติ รวมถึงนำเสนอค่านิยมที่ต้องการ เช่น วันนี้คุณกอดพ่อ แม่หรือยัง “ปลัดวธ.กล่าว
