ส่องชีวิต’หญิงไก่’ ตำนานฉาว ออฟ เดอะ ทาวน์

เปิดฉากด้วยสตอรี่สุดฉาว สำหรับคดีของหญิงสารพัดนิกเนม “หญิงไก่ นางไก่ ท่านแม่สุชาดา ท่านหญิงสุชาดา” หรือแม้กระทั่ง “องค์หญิง”

นางวันทนีย์ หยกวิริยะกุล นางสุชาดา หยกวิริยะกุล และนางมณตา หยกรัตนกาญ หรือไก่ เป็นชื่อและนามสกุลจริงของเธอ ที่จนแล้วจนรอด จนถึงวันที่ต้องย่างกรายเข้าไปนอนในมุ้งสายบัวเมื่อ 7 กรกฎาคม เธอยังไม่ปริปากว่า เป็นคนเดียวกับ “นางมณตา หยกรัตนกาญ” คงมีแต่พยานหลักฐานของตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เท่านั้น ที่ยืนยันหนักแน่นว่าใช่คนเดียวกัน ที่เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ประชาชื่น เอาผิดสาวใช้

“หญิงไก่” ถูกย้อนเกล็ด ดำเนินคดีฐานแจ้งเท็จ พ่วงด้วย พยายามค้ามนุษย์ และหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หลังจากแจ้งความป้ายสีสาวใช้และคนใกล้ตัว 12 คน รวม 9 คดี ฐานลักทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ และทำให้เสียทรัพย์ บางรายตัวเลขสูงถึง 7-8 หลัก

ด้วยฐานะยากจน ไม่สันทัดกฎหมาย ประกอบกับถูก “หญิงไก่” ในฐานะนายจ้างหว่านล้อมแกมบังคับ จนต้องยอมจำนนเซ็นรับสารภาพ

Advertisement

สุดท้าย สาวใช้หลายรายต้องติดคุกด้วยความจำใจ!!

กว่าจะตั้งหลักได้ ก็เนิ่นช้า ทว่า ยังไม่สายเกินกาล

1 กรกฎาคม นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ พาสาวใช้ที่ถูกหญิงไก่แจ้งจับ 3 ใน 9 คดี เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ “หญิงไก่” ฐานแจ้งเท็จ ที่ บก.ป.

Advertisement

จากปากคำเหยื่อสาว และการจำลองเหตุการณ์ลักทรัพย์ ที่คอนโดมิเนียมย่านประชานิเวศน์ 1 ที่พักของ “หญิงไก่” ตำรวจนำมาหักล้างกับภาพจากกล้องวงจรปิดที่ “หญิงไก่” ใช้เป็นหลักฐานมัดสาวใช้ เพราะช่วงเวลาในสำนวน สาวใช้ไม่น่าจะมีเวลาเพียงพอในการรื้อค้นทรัพย์สิน

5 กรกฎาคม พนักงานสอบสวน บก.ป. นำโดย พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รอง ผบก.ป. ยื่นคำร้องขออนุมัติหมายจับ นางมณตา หยกรัตนกาญ ต่อศาลอาญาในข้อหาแจ้งความเท็จ

ศาลเห็นควรให้ออกหมายเรียกก่อน เนื่องจากเห็นว่า “นางมณตา” มีแหล่งที่อยู่ภูมิลำเนาชัดเจน ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี พนักงานสอบสวน บก.ป.จึงออกหมายเรียกให้มาพบ เพื่อทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 11 กรกฎาคม

ขณะที่ “หญิงไก่” แม้จะรู้ว่าตำรวจเอาจริงแน่แล้ว แต่ดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้าน รุ่งขึ้นเธอยังคงปรากฏตัวเดินทางไปวัดใหญ่ หรือวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.พิษณุโลก เข้ากราบไหว้พระพุทธชินราช

“มีความตั้งใจจะมากราบหลวงพ่อพระพุทธชินราช..มากราบว่า ถ้าเกิดผู้ต้องหานำเงินหรือทรัพย์สินของดิฉันไป ขอให้เขามีอันเป็นไป แต่ถ้าเขาไม่ได้ลักขโมยของดิฉันไป ขอให้ดิฉันมีอันเป็นไป ถ้าเราใส่ความเขา ขอให้เรามีแต่ภัยพิบัติเกิดขึ้นในชีวิต แต่ถ้าเขาเอาของเราไปจริง ขอให้เรามีแต่สิ่งดีๆ เกิดขึ้นในชีวิต..อีกฝั่งชี้นำมาตลอด ว่าค้ามนุษย์ เป็นคุณหญิงปลอมบ้าง ไม่ต้องห่วงว่าจะเป็นของปลอม?” หญิงไก่ให้สัมภาษณ์ด้วยความมั่นใจ

แล้วความมั่นใจของเธอก็นำพาตัวเองเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ป. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 7 กรกฎาคม ก่อนกำหนดนัด 4 วัน และไม่เกินความคาดหมายว่า เธอต้องปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

แต่กระนั้น ตำรวจไม่ได้แจ้งเพียงข้อหาแจ้งเท็จ เมื่อพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงข้อหาพยายามค้ามนุษย์ ตามคำให้การของเหยื่อสาวที่ระบุว่า “หญิงไก่” พยายามชักจูงให้ไปทำงานที่ประเทศฮ่องกง เมื่อไม่ยินยอม จึงโดนแจ้งความกลับฐานลักทรัพย์ ประกอบกับการค้นห้องพัก “หญิงไก่” พบพาสปอร์ตถึง 19 เล่ม

รวมถึงข้อหาหมิ่นเบื้องสูง ตาม ป.อาญา มาตรา 112 หลังคนใกล้ชิดให้การซัดทอดว่า เธอมักอ้างตัวเป็นถึง “คุณหญิง” หรือ “องค์หญิง” ที่สำคัญ ต้องหมอบ กราบ คลานเข่า เวลาอยู่ด้วยกัน

หลังแจ้งข้อหา “หญิงไก่” ถูกส่งตัวฝากขังต่อศาลอาญา พร้อมค้านประกันตัวทันที ท้ายที่สุด ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว

เธอถูกส่งตัวเข้าทัณฑสถานหญิงกลาง เป็นสถานที่แห่งเดียวกับที่ นางสุกัลยา ศิริม่วง แม่ของ “น้องมีน” น.ส.วณิชยา บุ้นสุนเฮง เหยื่อที่ถูกเธอแจ้งจับฐานลักทรัพย์ เคยถูกคุมขัง และเพิ่งได้รับอิสรภาพออกมาไม่นาน

จากสาวใหญ่ที่กำความมั่นใจมาเต็มร้อย แววตาและใบหน้าเจือด้วยความเครียดอย่างเห็นได้ชัด

แม้ “หญิงไก่” จะถูกจองจำไปแล้ว แต่ประวัติและร่องรอยที่คุณหญิงกำมะลอทิ้งเอาไว้ ถูกเปิดโปงรายวัน เรียกว่าทั้งแซ่บ และแสบสัน ระคนกันไป

แต่ละฉากชีวิตของเธอ แทบไม่รู้ว่า อะไรจริง อะไรปลอม อะไรบ้างที่เชื่อถือได้ หรืออะไรบ้างที่ลวงโลก?!

เริ่มจากตัวตน ที่อุปโลกน์ให้คนรอบข้าง เข้าใจว่าเป็น “คุณหญิง” หรือ “องค์หญิง” ทั้งที่ข้อเท็จจริงมีเพียงคำนำหน้าชื่อว่า “นาง”

พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พบว่า ช่วงเวลา 30 ปีมานี้ “หญิงไก่” จดทะเบียนสมรสและทะเบียนหย่านับได้รวม 6-7 ครั้ง

“บางครั้งนางไก่มีพฤติกรรมสร้างตัวละครขึ้นมาเสริมความน่าเชื่อถือให้กับตัวเอง เช่น อ้างว่ามีทหารยศนายพลติดตามไปที่สถานีตำรวจ แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นทหารจริงหรือไม่” ผบช.ก.เผยถึงพฤติกรรม

“หญิงไก่” มีรายได้จากการเปิดร้านคาร์แคร์ รวมถึงบริษัท ริชชัวร์ 111 (RICHSURE 111) ตั้งอยู่ที่ 159/4 ถนนเทศบาลนิมิตเหนือ 34 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร และเปิดเพจเฟซบุ๊กชื่อ “รวยแน่นอน” ตั้งตัวเป็น “ท่านแม่สุชาดา” ทำธุรกิจใบ้หวย ทำนายเลขเด็ด ด้วยการแอบอ้างญาณวิเศษ บอกเลขแม่นยำ จนบรรดาคอหวย นักเสี่ยงโชคหลงกลลวง เข้าล็อกเธอมาแล้วหลายราย

ส่วนนิมิตของ “ท่านแม่สุชาดา” จะแม่นจริงดังคำคุยหรือไม่นั้น จนถึงวันนี้ยังไม่มีสาวกคนใดกล้าเปิดหน้าแสดงตัว

อีกทั้งยังพบพฤติกรรมหลอกลวงวัดสวนหลวง ขอเป็นประธานทอดกฐินประจำปี ประสงค์จะร่วมทำบุญ 10 ล้านบาท เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2556 ครั้งนั้นเธอยังใช้ชื่อ “นางสุชาดา หยกวิริยะกุล” แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ปรากฏตัวเลขเงินถวายวัดสักแดง

ไม่เพียงแสดงตัวว่าชอบทำบุญที่วัด เธอยังอวดโอ่ว่าชอบทำทาน ด้วยการแจกสร้อยทองเส้นโต ไม่ใช่แค่ทองตีโป่ง แต่เป็นทอง (เกือบแท้) ที่โรงตึ๊งยังเมิน!!

ไม่นานนักจากเรื่องเล่าลวงโลก เริ่มกลายเป็นเรื่องน่าสะพรึง เมื่อ 8 กรกฎาคม นายสงกานต์ เข้าพบ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) และ พล.ต.ท.ศานิตย์ รรท.ผบช.น. เปิดปมใหม่ กรณีการหายตัวลึกลับของ “โก้” นายสุนทร ขันหิน อดีตคนขับรถ “หญิงไก่” กับนางฉวีวรรณ ตั้งวิริยะกุล เศรษฐินีใน จ.อุดรธานี

“ปี 2546 นางไก่ขอซื้อที่ดิน 8 ไร่กับเศรษฐินี อ้างตัวเป็นลูกบุญธรรมของอดีตสามีเก่าเจ้าของที่ดินรายนี้ นำไปสร้างคอนโดมิเนียม จากนั้น นางไก่เดินทางไปกับสามีที่เป็นนายตำรวจและรับตัวเจ้าของที่ดินมา กระทั่งหายตัวไป ญาติมาสอบถามกับนางไก่ได้คำตอบว่าเจ้าของที่ดินเสียชีวิตไปแล้ว ส่วนที่ดินโอนเป็นชื่อนางวันทนีย์ หยกวิริยะกุล ชื่อและสกุลเดิมของนางไก่ ก่อนเปลี่ยนมือในเวลาไม่นาน” นายสงกานต์เล่า

พลันที่ได้รับข้อมูล เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ จ.อุดรธานี ทันที ญาติของเศรษฐินีเผยว่า เศรษฐินีป่วยด้วยโรคร้าย คนในครอบครัวไม่ทราบมาก่อน มีการตั้งศพบำเพ็ญกุศลและฌาปนกิจภายในวันเดียว และ “หญิงไก่” เป็นคนแจ้งการตาย

รวมทั้งยังพบว่า “หญิงไก่” เป็นคนนำตู้เซฟใส่ทองคำ 30 บาทออกไปจากบ้าน ก่อนนำมาคืน แต่กลับกลายเป็นทองปลอมสอดไส้

เหตุไฉนเศรษฐินีจึงป่วยและเสียชีวิตโดยไม่บอกกล่าวให้ญาติรู้? ทำไม “หญิงไก่” จึงเป็นผู้แจ้งการตายของเศรษฐินี? เพราะอะไรพิธีศพจึงดำเนินการอย่างรวบรัดภายใน 1 วัน? ที่ดินผืนนี้มีการซื้อขายอย่างถูกต้องจริงหรือ? หลายปมคาใจที่ตำรวจกำลังเร่งคลี่คลาย!!

ขณะที่ “โก้” อดีตคนขับรถ “หญิงไก่” แสดงตัวหลังข่าวแพร่สะพัด พร้อมทั้งเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน บช.น.

จากคดีสาวใช้ลักทรัพย์ พลิกผัน กลายเป็นนายจ้างแจ้งเท็จ ลามถึงพยายามค้ามนุษย์ และ ม.112

จน “หญิงไก่” ต้องระเห็จไปนอนในคุก

ตามมาด้วยเงื่อนงำปมปริศนาการตายของเศรษฐินีที่พัวพันกับสาวใหญ่คนนี้ ที่ดูท่าทางจะยืดเยื้อบานปลาย!!

พร้อมๆ กันนั้น พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. มอบหมายให้ พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ รอง ผบช.น. ตรวจสอบข้อเท็จจริง 9 สำนวนที่ “หญิงไก่” แจ้งความสาวใช้ รวมถึงการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวนและผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น

เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏชัดว่าสาวใช้ถูกใส่ความ สำนวนจึงพบความ “บกพร่อง” พล.ต.ต.จารุวัฒน์ชี้มูลความผิด เบื้องต้นตำรวจ 16 นาย

และถ้าทุกเรื่องราวของ “หญิงไก่” ถูกปั้นแต่ง จัดฉาก สมมุติขึ้นโดยผู้หญิงคนนี้จริง

ฉากชีวิตของสาวใหญ่จะถูกบันทึกเป็นหนึ่งใน “ตำนานลวง” ทีเดียว!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image