สืบนครบาลรวบสาวแสบหลอกตุ๋นเงินเหยื่อไปทำงานญี่ปุ่น-เกาหลี ซ้ำเติมคนตกงานวิกฤตโควิด
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รอง ผบช.น.พร้อม พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น.,พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น.สั่งการให้ พ.ต.อ.ฤตวีร์ สุขเจริญ ผกก.วิเคราะห์ข่าว และเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. นำกำลังตำรวจร่วมกันจับกุม น.ส.จารุวัลย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 315/2563 ลงวันที่ 5 มีนาคม 2563 ในข้อหา “จัดหางานเพื่อให้คนไปทำงานในต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ, ฉ้อโกงประชาชน” จับกุมได้ที่ริมถนนประชาอุทิศ ซอยประชาอุทิศ 82 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ หลังมีผู้เสียหายหลายรายเตือนภัยทางสื่อสังคมออนไลน์ว่ามีคนร้ายหลอกลวงว่าสามารถจัดหางานให้คนอื่นไปประเทศเกาหลี และญี่ปุ่น โดยคิดค่าดำเนินการรายละ 20,000 – 70,000 บาท ทำให้มีคนหลงเชื่อ จนสูญเสียทรัพย์สินไปหลายราย โดยเฉพาะผู้ที่กำลังเดือดร้อนในช่วงไวรัสโควิด-19 ระบาด เพราะคนร้ายรายนี้สร้างความหวังให้เหยื่อหลงเชื่อว่าจะกลับมามีสถานะการเงินที่ฟื้นตัวได้ แต่ปรากฏว่าเหยื่อไม่ได้ไปทำงานตามที่ผู้ต้องหารายนี้ระบุไว้
ต่อมาเมื่อ พล.ต.ต.อิทธิพล สั่งการให้ พ.ต.อ.ฤตวีร์ เร่งดำเนินการจับกุมได้ในซอยประชาอุทิศ 82 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ สอบสวนผู้ต้องหา ให้การยอมรับสารภาพว่า ปกติไม่มีอาชีพ จึงมาก่อเหตุเพื่อดำรงชีวิต นอกจากนี้เมื่อตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา พบว่ามีหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่นติดตัวในข้อหาจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตและฉ้อโกง ท้องที่ สภ.กระนวน,สภ.แม่สรวย จ.เชียงราย และ สภ.โคกตูม จ.ลพบุรี
ทั้งนี้จากการสืบสวนยังพบด้วยว่าผู้ต้องหารายนี้จะหลอกให้กู้เงินโดยคิดค่าดำเนินการรายละ 500 -1,000 บาท โดยที่เหยื่อไม่ได้รับเงินกู้แต่อย่างใด เมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินยังพบว่าผู้ต้องหาได้เปิดบัญชีที่รับโอนเงินถึง 6 บัญชี หากมีผู้เสียหายรายใดตกเป็นเหยื่อของผู้ต้องหารายนี้ สามารถประสานมายังตำรวจสืบสวนนครบาลได้ทันที เพื่อรวบรวมเป็นหลักฐาน ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
