นักวิชาการแรงงาน-เอ็นจีโอ ‘หนุน-ค้าน’ ประกันสังคมจ่าย 75%
ความคืบหน้ากรณี ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีแนวคิดจะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 12 พฤษภาคมนี้ ให้สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ปรับเพิ่มเงินชดเชยกรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ให้กับผู้ประกันตน มาตรา 33 ที่มีการลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาประมาณ 9.9 แสนคนเศษ จากเดิมร้อยละ 62 เป็นร้อยละ 75 แต่ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ประกันสังคม ไม่เห็นด้วย เพราะเกรงจะกระทบต่อเงินกองทุนในระยะยาวนั้น
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม น.ส.อรุณี ศรีโต ประธานครือข่ายแรงงานนอกระบบและกรรมการบอร์ดประกันสังคม ฝ่ายลูกจ้าง กล่าวว่า หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ยังเดินหน้าเสนอ ครม.ก็เป็นเรื่องที่รัฐมนตรีต้องรับผิดชอบเอง เพราะบอร์ดได้แสดงจุดยืนแล้วว่าไม่เห็นด้วย เนื่องจากต้องคำนึงถึงผู้ประกันตนทั้ง 15 ล้านคน ที่จ่ายเงินเข้ากองทุนประกันการว่างงาน ซึ่งในอนาคตหากตกงาน ควรมีโอกาสได้ใช้เงินที่จ่ายสมทบทุกเดือนด้วย หากเงินก้อนนี้หมดจะทำอย่างไร
“เงินกองนี้มี 1.6 แสนล้านบาท ควรใช้เมื่อลูกจ้างตกงาน หรือออกจากงานเพื่อประทังความเดือดร้อน 3-6 เดือน เราต้องคำนึงถึงผู้ประกันตนที่เขาจ่ายเงินกันทุกเดือนด้วย ถ้าอนาคตถ้าเขาตกงาน ก็ควรมีสิทธิใช้เงินนี้ หากรัฐบาลต้องการจะช่วยเหลือลูกจ้างมากร้อยละ 62 ควรใช้งบประมาณที่เป็นภาษีของประชาชน” น.ส.อรุณี กล่าว
นายมนัส โกศล ประธานสภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย และประธานเครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน (คปค.) กล่าวว่า เคยแสดงจุดยืนแล้วว่าไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ เพราะเกรงว่านายจ้างจะเลี่ยง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน และโอนภาระให้กับกองทุนประกันสังคม ที่สำคัญยังไม่เห็นมีผู้ประกันตนร้องเรียนว่า ได้รับเงินว่างงาน ร้อยละ 62 น้อยไป
ขณะที่ นายชาลี ลอยสูง รองประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) กล่าวว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกจ้างว่าเงินที่ได้รับจากกรณีว่างงานของ สปส.ร้อยละ 62 ต่ำกว่าการได้รับจากเหตุสุดวิสัยและต้องหยุดงาน ที่นายจ้างต้องจ่ายให้ร้อยละ 75 ดังนั้น ควรจ่ายให้ได้เท่ากับ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ซึ่งเป็นการจ่ายแค่ชั่วคราว ส่วนเรื่องเงินกองทุนว่างงานจะหมดหรือไม่นั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง กรณีที่เกรงกันว่านายจ้างจะผลักภาระให้ สปส. หากไม่ใช่เหตุสุดวิสัยก็สามารถตรวจสอบกันได้
นายยงยุทธ แฉล้มวงศ์ นักวิชาการจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า กองทุนประกันสังคมบริหารโดยระบบไตรภาคี ที่ประกอบด้วยผู้แทนของหน่วยงานภาครัฐ ผู้แทนนายจ้าง ลูกจ้าง รวมถึงมีผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญมีประสบการณ์ในงานประกันสังคม ที่ผ่านมา ไม่เคยมีครั้งใดที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ดำเนินการนอกเหนือจากมติบอร์ด และว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะกองทุนประกันการว่างงาน 1.6 แสนล้านบาท มีเจตนาดูแลลูกจ้างที่ตกงาน ถูกเลิกจ้าง ไม่ใช่กลุ่มลูกจ้างที่ถูกปิดงานชั่วคราวจากเรื่องโควิด-19 และการสั่งปิดสถานประกอบการชั่วคราวเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบ