เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นำพระสมุห์ชวลิต กิติเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดท่าซุงทักษิณาราม อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา นางวริศรา แก้วปลั่ง อดีตบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง กรรมการ ป.ป.ช. จ.สุรินทร์ และนางสายใย ยิ่งภูมิ อายุ 87 ปี พยานและผู้เสียหายในคดีที่ นางมณตา หยกรัตนกาญ หรือ หญิงไก่ อายุ 58 ปี ร่วมกับเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งแอบอ้างรู้จักกับท่านผู้หญิง และสามารถดำเนินการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสายสะพายให้ได้ โดยนางสายใย ถูกหลอกลวงสูญเสียเงินจำนวน 2.8 ล้านบาท เข้าพบ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกพร้อมให้ตรวจสอบประวัติของเจ้าอาวาสที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมกับหญิงไก่หลอกลวงผู้เสียหาย
นายสงกานต์ กล่าวว่า นอกจากจะพาผู้เสียหาย และพยานมาให้ข้อมูลเชิงลึกกับ พล.ต.ท.ฐิติราช แล้ว ยังขอให้ตรวจประวัติเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา ที่นางสายใย อ้างว่าร่วมขบวนการกับนางไก่ ในการหลอกลวงว่าสามารถขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสายสะพาย เนื่องจากพบว่าใบสุทธิ 3 ใบ มีข้อมูลบุคคลไม่ตรงกัน ทั้งวันเดือนปีเกิดและวันอุปสมบท จึงนำหลักฐานมามอบให้ พล.ต.ท.ฐิติราช ช่วยตรวจสอบให้ ทราบว่าสั่งการให้ดำเนินการตรวจสอบแล้ว และส่งข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ทั้งนี้ เจ้าอาวาสรูปดังกล่าว อยู่ที่ จ.เชียงราย อยากฝากว่า หากทราบข่าวจากสื่อมวลชนขอให้เข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) เพื่อให้ข้อเท็จจริงกับตำรวจ
นายสงกานต์ กล่าวต่อว่า สำหรับเจ้าอาวาสวัดรูปดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับนางไก่ โดยเป็นพระอาจารย์ที่นางไก่นับถือ ก่อนหน้านี้เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สั่งการให้ พระสมุห์ชวลิต กิติเมธี ไปนิมนต์ให้ออกจากวัด ซึ่งเป็นวัดร้าง มีถาวรวัตถุ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีผู้ศรัทธาเข้าไปทำบุญ เกรงว่าจะมีการแอบอ้างชื่อวัดไปแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ จนสร้างความเสื่อมเสียแก่พระพุทธศาสนา แต่เจ้าอาวาสรูปดังกล่าวไม่ยอมออก โดยได้ให้นางไก่ มาเคลียร์ จึงมีการข่มขู่เกิดขึ้น
