เหยี่ยวถลาลม : จุดอ่อน

เหยี่ยวถลาลม : จุดอ่อน

เหยี่ยวถลาลม : จุดอ่อน

ตั้งสติแล้วทบทวนถึงผลกระทบจากโควิด-19 อย่างช้าๆ ไปพร้อมๆ กัน

“ระบบสาธารณสุข” ก็เหมือนกับระบบปฏิบัติการอื่นๆ เช่น ระบบการเมือง ระบบเศรษฐกิจ ระบบยุติธรรม ระบบการป้องกันประเทศ สุดแต่ว่าช่วงไหนประเทศเผชิญกับเหตุการณ์อะไร

เช่น “ระบบยุติธรรม” ถ้าปฏิบัติการล้มเหลว คนจะไม่เคารพกฎหมาย ผู้ร้ายจะเต็มบ้านเต็มเมืองและผู้คนก็จะชำระความพิพากษากันเองตามอัธยาศัย หรือถ้าระบบป้องกันประเทศเป็นง่อย รบร้อยครั้งแพ้ร้อยครั้งก็จะนำไปสู่การสูญเสียตั้งแต่ชีวิต ทรัพย์สิน ดินแดนและเอกราช

Advertisement

เมื่อโควิด-19 ระบาดพิสูจน์ว่าไทยมี “ระบบสาธารณสุข” เป็นจุดแข็ง

แต่ “การเมือง” กลับเป็นจุดอ่อน !

อาจารย์หมอท่านหนึ่งบอกว่า หมอตั้งใจให้ข้อมูลเฉพาะทางการแพทย์เท่านั้น รัฐบาลต้องเอาไปคิดวิเคราะห์กับทุกมิติในทุกๆ วัน ไม่ใช่หยิบเอาแต่คำแนะนำด้านร้ายๆ แล้วเอาไปประกาศเป็นแนวทางปฏิบัติ โดยที่ไม่ใช้สมองด้านต่างๆ กลั่นกรองก่อนจะออกมาเป็นนโยบายใช้กับประชาชน

ในด้านเศรษฐกิจมหภาค ศุภวุฒิ สายเชื้อ เปรียบเสมือนอาจารย์หมอท่านหนึ่ง

ในโอกาสที่ “ประชาชาติธุรกิจ” ก้าวสู่ปีที่ 44 “ศุภวุฒิ” ซึ่งร่วมเสวนาออนไลน์ได้ฉายภาพเห็นว่า จากนี้ไป ถ้ารัฐบาลยังไม่เร่งผ่อนคลาย ยังห้ามทำโน่นทำนี่ จนทำมาหากินกันไม่ได้ ธุรกิจ “เอสเอ็มอี” นับล้านรายจะมีปัญหา การค้าจะล้มละลาย ธุรกิจจะปิดกิจการกันอีกมาก คนจะตกงาน 5-7 ล้านคน ระบบเศรษฐกิจจะยับเยินหนักยิ่งกว่าการล่มสลายในยุคต้มยำกุ้งปี 2540

เรียกว่าเป็น “ฝีมือล้วนๆ” ของรัฐบาลที่เน้นการควบคุมบังคับจนไม่มองมิติอื่นใด ทั้งที่ไทยมีดีอยู่มากมาย ทั้งการแพทย์การพยาบาล การบริการ อาหาร อากาศ อุณหภูมิ สถานที่เที่ยวธรรมชาติ และวัฒนธรรม ซึ่งคุณศุภวุฒิเห็นว่าสามารถ “ร่อนบัตรเชิญ” คนรวยจากต่างประเทศให้หนีหนาวมาใช้เงินเพื่อสุขภาพอยู่ในเมืองไทยได้ 3-4 เดือนต่อปี

เพียงแต่เลือกใช้ “จุดแข็ง” ให้ถูกที่ถูกเวลา

คุณศุภวุฒินำเสนอข้อเท็จจริงเอาไว้ด้วยว่า วันนี้เรามีผู้ป่วยไม่ถึง 100 คน แต่มีเตียงไว้ตั้ง 15,000 เตียง เราสามารถทดสอบโรคได้วันละ 200,000 ราย มีห้องแล็บทั่วประเทศตั้ง 167 ห้อง มีห้องไอซียูคอยไว้ 2,000 ห้อง ยังไม่ได้ใช้เลย

ด้านสาธารณสุขไทยมีความพร้อมรับมือสูงมาก

แต่การเมืองกับเศรษฐกิจไปไม่เป็น !?!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image