น.1ยันเก๋งพุ่งชนศาลพระพรหมเป็นอุบัติเหตุ ลูกสาวเผยแม่ชัก หมดสติวูบ เส้นเลือดสมองแตก พยายามดึงเกียร์ลดสูญเสีย

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 23 กรกฎาคม ที่ห้องประชุม 1 อาคารฝึกประสบการณ์วิชาชีพเชิงบูรณาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ถนนแจ้งวัฒนะ เขตบางเขน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีอุบัติเหตุรถยนต์พุ่งเข้าชนที่ศาลพระพรหม บริเวณแยกราชประสงค์ เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากอุบัติเหตุ ไม่ใช่การก่อการร้าย เพราะตัวผู้ขับรถคันดังกล่าว มีอาการเส้นโลหิตในสมองแตกเฉียบพลัน โดยเรื่องดังกล่าวตัวบุตรสาวของผู้ขับขี่เป็นผู้ยืนยันว่า ระหว่างนั้นมารดาของเธอได้ขับรถมาโดยปกติก่อนจะเกิดชัก และวูบหมดสติไป ส่วนภาพวงจรปิดที่เห็นว่า รถมีการถอยหลัง เนื่องจากตัวบุตรสาวพยายามเข้าเกียร์ถอยหลังเพื่อหยุดความรุนแรงของรถเท่าที่จะทำได้ อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.)สำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดโดยเน้นการเก็บดีเอ็นเอของผู้ขับขี่ไปตรวจสอบเพื่อยืนยันความชัดเจนอีกครั้ง
รรท.ผบช.น.กล่าวว่า การดำเนินคดีเบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสกับตัวผู้ขับขี่ไปก่อน แต่หากภายหลังแพทย์สามารถยืนยันได้ว่าผู้ขับขี่ไม่มีสติในการบังคับรถได้ขณะเกิดเหตุก็ไม่จำเป็นต้องรับโทษในทางอาญาแต่ในส่วนของคดีแพ่งต้องฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อไป
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวอีกว่า อาการของนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บขณะนี้ปลอดภัยแล้วมีเพียงผู้ขับที่ยังอยู่ในห้องไอซียู และยังต้องสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด

ขณะที่ทางพล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เปิดเผยถึงความคืบหน้าล่าสุดว่า จากการสอบถามอาการของนางคนึงนิจ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พบว่าหลังจากผ่าตัดเส้นเลือดในสมองเมื่อคืนนี้ ขณะนี้ อาการของนางคนึงนิจปลอดภัยแล้ว ขณะที่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บขณะนี้เหลือพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล จำนวน 2 คน เป็นชาวอินโดนีเซีย ส่วนที่เหลือสามารถกลับบ้านได้แล้ว

เบื้องต้นขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตั้งข้อกล่าวหากับนางคนึงนิจ เนื่องจากจะต้องใช้เวลาในการรวบรวมพยานหลักฐาน ว่าสาเหตุมาจากความประมาทหรือเป็นเหตุฉุกเฉิน ขณะที่การตรวจสอบรถที่เกิดเหตุยังไม่ทราบว่ารถดังกล่าวมีประกันหรือไม่ จากการตรวจสอบภายในรถไม่พบเอกสารหลักฐานต่างๆ

ทางด้านพ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้ดูแลคดีอย่างใกล้ชิด และขอให้มีการแถลงข่าวเพื่อแจ้งความคืบหน้าให้กับประชาชนทราบ ขณะนี้ได้มีการติดต่อประสานงานไปยังสถานกงสุลของแต่ละประเทศ เพื่อแจ้งข่าวและทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. จะทำเรื่องพิจารณาให้ผู้บาดเจ็บที่ยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล อยู่ภายในประเทศต่อ จนกว่าจะรักษาตัวให้หายดี รวมทั้งยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ใดๆเป็นเรื่อง ของอุบัติเหตุ

ขณะที่พล.ต.ต. ทรงพล วัฒนะชัย รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวผู้ขับขี่ควรจะดูแลสุขภาพ หากพบว่าร่างกายมีความผิดปกติ ควรจอดรถชิดซ้าย แล้วเปิดไฟฉุกเฉิน หรือสับเปลี่ยนผู้ขับรถ และขอให้ผู้ขับรถใช้ความระมัดระวังให้มาก

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image