‘บิ๊กเต่า’ มึน ‘อธิบดีป่าไม้’ พิลึกตั้ง กก.สอบวินัยไม่ร้ายแรง 3 ขรก.คุกคาม จนท.หญิง

อธิบดีกรมป่าไม้อุ้ม 3 ขรก.คุกคามทางเพศเจ้าหน้าที่หญิง สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างไม่ร้ายแรง วิจารณ์ยับเข้าข่ายชี้นำ แถมแฉอีกนำลูก-เมียร่วมทริปพักผ่อนสวิสเซอร์แลนด์ ด้าน “บิ๊กเต่า” มึน ให้เจ้าตัวตอบเองเหมาะสมหรือไม่

กรณีจากกรณีข้าราชการหญิงกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ตำแหน่งนักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ สังกัดสำนักวิจัยและพัฒนาการป่าไม้ ถูกพนักงานราชการชาย ซึ่งเป็นพนักงานขับรถคุกคามทางเพศระหว่างนั่งรถไปปฏิบัติราชการที่ต่างจังหวัด และจะไปแจ้งความดำเนินคดี แต่ถูกหัวหน้างานสั่งไม่ให้แจ้งความเกรงจะทำให้องค์กรเสียชื่อเสียง แต่ข้าราชการบางคนที่ทราบเรื่องทนไม่ไหวส่งข้อความผ่านทางไลน์เรียกร้องความเป็นธรรม กระทั่งนายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ ได้แต่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงและพบว่ามีมูลความผิดจริง และจะต้องมีการสั่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยข้าราชการ 3 รายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งให้มีการสอบสวนเรื่องการเบิกจ่ายเงินค่าที่พัก แต่พบว่ากลับไปพักฟรีในสถานที่ราชการด้วยนั้น แต่ปรากฎว่าล่าสุดอธิบดีกรมป่าไม้กลับมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างไม่ร้ายแรง 3 ข้าราชการกรมป่าไม้ในกรณีดังกล่าว

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชลธิศได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างไม่ร้ายแรง 3 ข้าราชการกรมป่าไม้ ที่ทำความผิดฐานคุกคามทางเพศข้าราชการหญิงและผู้มีส่วนร่วม ประกอบด้วย นางนฤมล ภานุนำภา หัวหน้างานพัฒนาพลังงานจากไม้ นางลักษมี สุทธิวิไลรัตน์ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ และนายวัชรินทร์ แซ่ฟุ้ง เจ้าพนักงานการเกษตร ทั้ง 3 คน สังกัดสำนักวิจัยและพัฒนา การป่าไม้ โดยให้นางอำนวยพร ชลดำรงค์กุล ผู้ตรวจราชการ กรมป่าไม้ เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัยฯ และให้ผู้อำนวยการสำนักวิจัยฯ ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาทราบคำสั่งโดยเร็ว ทั้งนี้ ผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิที่จะคัดค้านกรรมการสอบสวน โดยทำเป็นหนังสือยื่นต่ออธิบดีกรมป่าไม้ภายใน 7 วัน นับแต่วันทราบหรือว่ารับทราบคำสั่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายชลธิศมีคำสั่งดังกล่าว ปรากฎว่าข้าราชการกรมป่าไม้ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าไม่เหมาะสม เพราะเท่ากับเป็นการชี้นำผลการสอบสวนว่าผู้ทำผิดจะมีโทษเพียงสถานเบาคือ การว่ากล่าวตักเตือนเท่านั้น และที่ผ่านมา ไม่เคยมีอธิบดีกรมป่าไม้คนใดมีคำสั่งแบบดังกล่าว นอกจากนี้ ภายหลังมีคำสั่งยังปรากฎว่าในไลน์ของข้าราชการกรมป่าไม้หลายราย ได้มีการแชร์รายชื่อคณะข้าราชการกรมป่าไม้ จำนวน 30 คน ตั้งแต่ระดับอธิบดีกรมป่าไม้ ผู้อำนวยส่วน และข้าราชการในตำแหน่งสำคัญๆ เดินทางไปพักผ่อนที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 13-21 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นำโดยนายชลธิศที่เดินทางไปพร้อมกับภรรยาและลูกสาว พร้อมกับระบุขอให้มีการตรวจสอบว่ามีการลาราชการไปทุกคนหรือไม่และเหมาะสมหรือไม่ ที่เดินทางไปถึง 30 คน เนื่องจากเป็นช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งห้ามไม่ให้ข้าราชการเดินทางไปต่างประเทศถ้าไม่จำเป็น ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อสอบถามนายชลธิศถึงคำสั่งดังกล่าว แต่ไม่สามารถติดต่อได้

Advertisement

ขณะที่ นางอำนวยพร เปิดเผยว่า ได้ลงนามรับทราบคำสั่งดังกล่าวเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม และมีเวลาสอบประมาณ 3 เดือน แต่พยายามจะทำให้เร็วที่สุด เพราะเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ เป็นศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิงคนหนึ่ง จะช้าไม่ได้ ทั้งนี้จะสอบแบบตรงไปตรงมาตามข้อเท็จจริงทั้งเรื่องการคุกคามทางเพศและการเบิกจ่ายเงินค่าที่พักที่อาจจะเข้าข่ายทุจริตด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า อธิบดีกรมป่าไม้สอบสวนวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ถือว่าเป็นการชี้นำผลที่จะออกมาว่าข้าราชการทั้ง 3 คนจะมีโทษไม่ร้ายแรงใช่หรือไม่ นางอำนวยพร กล่าวว่า หนักใจ แต่จะสอบแบบตรงไปตรงมา

ขณะที่ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการ ทส. กล่าวว่า ยังไม่เห็นคำสั่งดังกล่าว แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยเห็นใครมีคำสั่งในลักษณะดังกล่าวมาก่อน มีแต่ตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย ส่วนจะร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรงเป็นเรื่องของคณะกรรมการจะชี้มา แต่คำสั่งดังกล่าวเหมือนเป็นการชี้นำ อย่างไรก็ตามการคุกคามทางเพศเป็นเรื่องร้ายแรงในวงการข้าราชการ

Advertisement

“คนที่ทำถือว่ามีความไม่ปกติ ไม่สามารถทำงานร่วมกับคนอื่นได้ เนื่องจากจะเป็นอันตราย ผมเจอเรื่องเหล่านี้มาตลอดในชีวิตราชการ ส่วนการเดินทางไปพักผ่อนต่างประเทศของนายชลธิศและครอบครัวและข้าราชการ นายชลธิศได้แจ้งผมไว้เพียงคนเดียว ส่วนข้าราชการอีก 20 กว่าคน จะลาไปหรือไม่ เป็นอำนาจของอธิบดี ส่วนจะเหมาะสมหรือไม่ ต้องไปถามนายชลธิ” พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image