เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป.,พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิยโย,พ.ต.ต.ณัฐวุฒิ มงคลการ สว.กก.5 บก.ป.นำกำลังจับกุมนายธวัชชัย หน่อเงิน หรือพระครูธวัชชัย ปัญญาธร อายุ 43 ปี นายณรงค์ศักดิ์ รอดเปีย อายุ 33 ปี และ น.ส.มนฤทัย แสงสุข อายุ 47 ปี ทั้งหมดเป็รผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น” จับกุมได้ที่ บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.5 ต.กะสอก อ.บนพิตำ จ.นครศรีธรรมราช
สืบเนื่องจากผู้ต้องหาทั้ง 3 รายรวมกลุ่มตั้งแก๊งแอบอ้างตัวเป็นพระผู้ใหญ่และนายทหารระดับสูง เพื่อหลอกเอาเงินผู้คน และแบ่งหน้าที่กันชัดเจน โดยนายธวัชชัย หรือพระธวัชชัย พระลูกวัดแห่งหนึ่งจะทำหน้าที่อ้างตัวเป็นพระผู้ใหญ่ รู้จักคนใหญ่คนโตของบ้านเมือง ส่วนนายณรงค์ศักดิ์ จะอ้างตนเป็นนายทหารระดับสูง เรียกตนเองว่า “เสธฯ” ทำหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของพระ ขณะที่ น.ส.มนฤทัย อ้างตัวเป็นเศรษฐีนีหรือคุณนาย แล้วจะติดต่อไปหาเหยื่อที่เป็นเศรษฐีผู้มีฐานะดี หรือข้าราชการที่มีความน่าเชื่อถือในแต่ละจังหวัด ก่อนจะอวดอ้างว่าสามารถติดต่อกับผู้ใหญ่ของบ้านเมือง พร้อมกับทำทีแกล้งโทรศัพท์คุยไลน์ที่ปลอมเป็นนักการเมือง หรือผู้มีชื่อเสียง ถ้าเหยื่อเป็นข้าราชการจะอ้างว่าสามารถวิ่งเต้นตำแหน่งให้ได้ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อผู้ต้องหาจะนำพระเครื่องมาปล่อยเช่าบูชา โดยอ้างเงินรายได้จะนำไปบริจาคเป็นทุนสร้างกุฎิวัดในพื้นที่ห่างไกล ก่อนที่ผู้เสียหายจะรู้ความจริงว่าผู้ต้องหากลุ่มนี้ไม่ได้เป็นพระผู้ใหญ่และนายทหารตามที่กล่าวอ้าง อีกทั้งเงินที่ขายพระเครื่องก็ไม่ได้นำไปบริจาคสร้างกุฏิวัดจริง จึงเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป.จนมีการออกหมายจับ ต่อมาชุดจับกุมสืบทราบว่าปัจจุบันผู้ต้องหากลุ่มนี้ได้หลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช จึงนำกำลังเข้าจับกุมได้ดังกล่าว
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การภาคเสธ รับว่าอ้างตัวเป็นพระผู้ใหญ่กับนายทหารจริง แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้ฉ้อโกงเงินผู้เสียหาย แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อเพราะจากการตรวจสอบประวัตินายธวัชชัย พบว่าเป็นพระจริงมีใบสุทธิแสดงตัวชัดเจน แต่ปัจจุบันไม่มีสังกัดที่จำวัดอยู่แน่ชัด เนื่องจากที่ผ่านมามักจะไปอาศัยหลับนอนอยู่ตามบ้านโยมอุปฐาก เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับก่อนนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. ดำเนินคดี
