เหยี่ยวถลาลม : แล้วจะเหลืออะไร
มีความพยายามอย่างมากจากสื่อมวลชนหลายแขนงที่จะทิ่มตำหัวใจ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้วยคำถามที่ชวนรำคาญหัวใจ
ได้ยินว่า พรรคติ่งเล็กติ่งน้อยจะยุบรวมเข้าไปอยู่ในชายคา “พลังประชารัฐ” ตาม “ไพบูลย์โมเดล” จริงหรือ
“ไม่รู้”
ได้ยินว่า พรรคเล็กพรรคน้อยพวกนั้นจะดันชื่อ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคศรีวิไลย์ เป็นรัฐมนตรี จริงหรือ
“ไม่รู้ ใครเสนออะไรผมก็ไม่รู้”
ได้ยินว่ามีการประสานงานส่งชื่อมาให้พิจารณาแล้วมิใช่หรือ
“ไม่มี…การปรับคณะรัฐมนตรีเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีคนเดียว บอกหลายครั้งแล้ว ถามซ้ำถามซาก”
จะเดินทางไปรับเทียบเชิญเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐหรือไม่
“ไม่ไป ยังไม่รู้”
ถ้าส่งเทียบมาเชิญจะรับนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคหรือไม่
“ไม่รับ ไม่รับ”
แล้วพร้อมหรือไม่ถ้าถูกเสนอชื่อขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
“จะไปรู้ได้อย่างไร”
ถึงจะถามกันจน “บิ๊กป้อม” ออกอาการหงุดหงิดก็ต้องถือว่าทั้ง “ผู้ถาม” และ “ผู้ตอบ” ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม
การถามของผู้สื่อข่าวคืองาน เป็นหน้าที่ต้องถามบุคคลสาธารณะ ส่วนที่ พล.อ.ประวิตรตอบนั้นถือว่าทำได้ดีในระดับที่ “จับเอาไปเป็นสาระไม่ได้” ทำให้ต่อความยาวสาวความยืดไม่ได้ปล่อยให้เหตุการณ์ที่กำลังเกิดในปัจจุบันกับที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต เป็น “คำตอบที่แท้จริง”
คำตอบจาก “บิ๊กป้อม” จึงคล้ายพวกมีหนี้ท่วมซึ่งเมื่อเผชิญหน้ากับเจ้าหนี้ที่มาทวงถามก็ได้แต่บอกว่า “ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย”
ไม่เหลืออะไรแล้ว!
ตั้งแต่ 22 พ.ค.2557 เป็นต้นมา มีผู้คนจำนวนหนึ่งเคยเชื่อในคำพูดที่ว่า “ขอเวลาอีกไม่นาน แล้วแผ่นดินที่งดงามจะคืนกลับมา”
วันนี้ โพลล่าสุดจากสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เรื่อง “การเมืองกับเยาวชน” ระบุร้อยละ 92.9 เห็นว่าผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคการเมืองกำลังย่ำสู่การเมืองแบบเดิมๆ ที่มีแต่การทุจริตคอร์รัปชั่น
ร้อยละ 91.4 ว่าเยาวชนไม่มีความเชื่อถือและจะไม่ทำตามคำชี้แนะของผู้ใหญ่ในรัฐบาล
ไม่มีแบบอย่างที่ดี
นพดล กรรณิกา ว่าจะมีก็แต่เรื่องแย่งชิงตำแหน่งรัฐมนตรี วางบิลซื้อเก้าอี้ ถอนทุนคืน คิดคด ทรยศ หักหลัง กร่าง หัวร้อน เสร็จนาฆ่าโคถึกเสร็จศึกฆ่าขุนพล!?!!