นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) และนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ร่วมแถลงข่าวงานสตาร์ตอัพ ไทยแลนด์ ที่จะจัดขึ้นช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน 2559 ที่ จ.เชียงใหม่ ขอนแก่น และภูเก็ต เพื่อต่อยอดความสำเร็จการขับเคลื่อนการพัฒนาสตาร์ตอัพและเศรษฐกิจดิจิตอลในช่วงต้นปีนี้ อันจะทำให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรมอย่างแท้จริง
นายพิเชฐกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีนโยบายที่ชัดเจนในการสร้างสังคมนวัตกรรม โดยเฉพาะการสนับสนุนกลุ่มวิสาหกิจเริ่มต้น (สตาร์ตอัพ-Startup) ในทุกมิติเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย โดยได้กำหนดนโยบาย 3 ข้อ เพื่อให้เกิดการสนับสนุนสตาร์ตอัพ ดังนี้ 1.กระจายตามภูมิภาค เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ซึ่ง วันที่ 5-7 สิงหาคม จัดที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.เชียงใหม่ วันที่ 26-28 สิงหาคม ที่วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น จ.ขอนแก่น และปิดท้ายวันที่ 16-18 กันยายน ที่รอยัล ภูเก็ต มารีน่า จ.ภูเก็ต 2.อยากให้มหาวิทยาลัยเพิ่มหลักสูตรเพื่อสตาร์ตอัพ เริ่ม 40-50 มหาวิทยาลัยนำร่อง ให้สร้างพื้นที่ของสตาร์ตอัพในมหาวิทยาลัย และ 3.ข้อกฎหมาย เพื่อช่วยสนับสนุนสตาร์ตอัพ คือ ให้มีการลดหย่อนภาษีเงินได้ 5 ปี ถ้าหากเป็นนักลงทุนหรือมีการปันผลหรือมีหุ้นในสตาร์ตอัพ ลดหย่อนภาษีเงินได้ 10 ปี อีกทั้งสตาร์ตอัพ 1 คน สามารถจดทะเบียนพาณิชย์ได้ และสตาร์ตอัพสามารถออกหุ้นกู้ได้ ขณะนี้กำลังพิจารณาอยู่โดยกระทรวงพาณิชย์
นายพิเชฐกล่าวว่า ที่ผ่านมา วท.สามารถระดมพลสตาร์ตอัพเข้าร่วมเป็นเครือข่ายได้กว่า 180 คน สร้างปรากฏการณ์คนชมงานด้านสตาร์ตอัพมากที่สุดในเอเชียเกือบ 36,000 คน ทำให้มีการลงทุนและเกิดพันธมิตรทางธุรกิจที่มูลค่าไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท
