เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ที่กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.กิตติพงศ์ แซ่เจ็ง ผู้อำนวยการสำนักอนามัยเจริญพันธุ์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวในการแถลงข่าว”พ.ร.บ.การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น : เด็กเยาวชนได้ประโยชน์จริงหรือ” ว่า ในวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ จะเป็นวันแรกในการประกาศใช้พ.ร.บ.ดังกล่าว ซึ่งกรมอนามัยเป็นเลขานุการคณะกรรมการภายใต้พ.ร.บ.ดังกล่าว โดยกรมจะทำหน้าที่รณรงค์ให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องออกกฎกระทรวงเพื่อขับเคลื่อนงานตามพ.ร.บ.ฯ ขณะเดียวกันกรมกำลังจัดทำยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นแผน 10 ปี(พ.ศ.2560-2569) เพื่อเน้นคุ้มครองสิทธิวัยรุ่นที่ตั้งครรภ์ไม่พร้อม ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้เป็นการสนับสนุนให้วัยรุ่นท้อง แต่เป็นการช่วยเหลือเพื่อให้พวกเขามีที่ยืนในสังคม เนื่องจากงานวิจัยที่ผ่านมาพบว่า วัยรุ่นหญิงตั้งครรภ์ ส่วนหนึ่งมาจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งการดำเนินคดีอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีการช่วยเหลือทางสังคมด้วย
นพ.กิตติพงศ์ กล่าวอีกว่า โดยข้อมูลที่ผ่านมาพบว่า ในแต่ละปีเด็กเกิดใหม่ 7 แสนคน จากแม่ที่อายุต่ำกว่า 20 ปีถึง 120,000 คน และในจำนวนนี้พบว่าเกิดจากแม่อายุน้อยกว่า 15 ปีถึง 3,500 คน ดังนั้นต้องลดจำนวนนี้ลงให้มากที่สุดอย่างน้อยร้อยละ 70 ซึ่งแผนยุทธศาสตร์ที่กำลังจัดทำจะมีเรื่องการป้องกัน ลดปัญหา ควบคู่กับการดูแลแก้ไขกรณีปัญหาเกิดขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่ตั้งใจ ทั้งนี้ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มอายุ 10-14 ปี เป็นกลุ่มที่ต้องลดปัญหาท้องไม่พร้อมมากที่สุด โดยปัจจุบันพบเฉลี่ย 1.6 คนต่อพันวัยรุ่นอายุ 10-14 ปี โดยภายใน10 ปีต้องลดจำนวนลงให้เหลือ 0.5 คนต่อพันคน และ2.กลุ่มอายุ15-19 ปี ปัจจุบันพบถึง44.3 คนต่อพันวัยรุ่นในกลุ่มอายุดังกล่าว โดยต้องลดลงให้เหลือ 25 คนต่อพันคน อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 22 สิงหาคม คณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาในวัยรุ่นจะมีการประชุม ซึ่งจะมีการพิจารณากฎหมายลูกต่างๆด้วย
“ยังมีความเข้าใจผิดว่าพ.ร.บ.นี้จะส่งเสริมให้เด็กตั้งครรภ์ในวัยเรียน แต่จริงๆ ไม่ใช่ เพราะจากการเก็บข้อมูลสัมภาษณ์เชิงลึกพบว่าส่วนใหญ่ที่ตั้งครรภ์เป็นการตั้งครรภ์โดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะถูกล่วงละเมิดทางเพศจากคนใกล้ชิดในครอบครัว ยิ่งอายุน้อยยิ่งถูกล่วงละเมิดมาก แต่ไม่ได้มีการแจ้งความเพราะการแจ้งความ และไม่ปรากฏเป็นข่าวเหมือนกับการถูกข่มขืนซ้ำ ทั้งๆ ที่ปัญหาจริงอยู่ตรงนี้ ดังนั้น พ.ร.บ.นี้ออกมาเพื่อช่วยเหลือเด็กเหล่านี้เพื่อให้พวกเขามีที่ยืนในสังคม ป้องกันวงจร โง่ จน เจ็บ เพราะที่ผ่านมาพบว่าเด็กที่ตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ส่วนใหญ่ก็เกิดจากแม่วัยรุ่นเช่นกัน” นพ.กิตติพงศ์ กล่าว
ทพ.ศิริเกียรติ เหลียงกอบกิจ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากการสำรวจความเห็นต่อพ.ร.บ.ดังกล่าวในกลุ่มนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย และระดับปวช.หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ ในกรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรี และสงขลา จำนวน 3,053 คน ในเดือนกรกฎาคม พบว่า สาเหตุของการตั้งครรภ์อันดับหนึ่ง คือ เลียนแบบเพื่อนและสื่อถึงร้อยละ 73.9
รองลงมาคือ จากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ร้อยละ 73 และการพักอาศัยอยู่ตามลำพัง ไม่ได้พักอยู่กับผู้ปกครองอีกร้อยละ 72.7 ส่วนอีกสาเหตุคือ พ่อแม่ผู้ปกครองไม่สอนหรือแนะนำเกี่ยวกับเรื่องเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยอีกร้อยละ 54.9 นอกจากนี้ ยังพบว่าร้อยละ 65.4 ยอมรับได้หากเพื่อนตั้งครรภ์ระหว่างเรียน ร้อยละ 28.4 รับไม่ได้ และร้อยละ 6.2 ไม่แน่ใจ
