เหยี่ยวถลาลม : เมื่อประชาชน‘ไม่เชื่อง’
เห็นข่าวเอฟเอฟพีรายงานว่า ประธานาธิบดีอิบราฮิม โบบาการ์ เคตา แห่งประเทศมาลี ประกาศให้ยุบองค์คณะผู้พิพากษาศาลรัฐธรรมนูญแล้วรู้สึกเหมือนมีอภินิหาร
แต่แท้จริงแล้ว เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้ด้วยอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์จริงหรือ
“ศาลรัฐธรรมนูญ” เป็นองค์กรที่ถูกจัดตั้งขึ้น พร้อมให้มี “อำนาจ” และมี “หน้าที่”
ส่วน “ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ” นั้นเป็น “คน” ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ “ทำหน้าที่”
ข้อเท็จจริงของลูกเต๋าคือ มี 6 หน้า
แต่ละหน้าของลูกเต๋ามีจุดที่แต้มสีดำหรือสีแดงเป็นสัญลักษณ์แทนจำนวนตัวเลข มีตั้งแต่ 1 แต้มถึง 6 แต้ม
เขย่าลูกเต๋าครั้งหนึ่ง อาจจะแสดงหน้า 1, 2, 3, 4, 5 หรือ 6 แต้ม นั่นสุดแท้แต่จะมีอภินิหาร
ธรรมชาติของมนุษย์ไม่ใช่เรื่องอิทธิปาฏิหาริย์ !
ตุลาการก็เป็นคน ไม่ใช่พระอิฐพระปูน จึงมีผัสสะครบ 6 ประการ
เมื่อมีความเป็นคนปกติก็ต้องมากไปด้วยความรู้สึกนึกคิด และการปรุงแต่ง
หากแต่ในด้านความยุติธรรม คนทุกคนต้องการ “ความเป็นธรรม” ที่ชอบด้วยเหตุด้วยผลเสมอกัน
ต้นมะพร้าวควรออกลูกมาเป็นผลของมะพร้าว ไม่ใช่มังคุด ทุเรียน หรืออื่นใด
“หลักการ” ของความยุติธรรมจึงไม่อาจโอนอ่อนผ่อนตามความต้องการอันไม่สิ้นสุดของ “มนุษย์” หากแต่ต้องชอบด้วยเหตุผลซึ่งรับฟังได้จนเกิด “ข้อยุติ”
ถึงแม้จะได้ชื่อว่าเป็น “ตุลาการ” ก็ไม่อาจเคลิ้มหลง
เมื่อมีอำนาจหน้าที่ “อำนวยความยุติธรรม” หรือ “วินิจฉัยชี้ขาด” ข้อพิพาทยิ่งต้องตั้งมั่นอยู่บน “หลักธรรม” ที่ชัดเจนแน่นอน
ถ้า “คน” ดำรงหลักธรรมมั่นคง องค์กรที่คนอยู่ก็จะได้รับศรัทธาไม่สั่นคลอน
จะไม่เกิดกลียุค ดังเช่นในประเทศมาลี ที่ประชาชนหลายเมืองใหญ่ๆ รวมทั้งในกรุงบามาโก พากันออกมาชุมนุมประท้วงกรณีที่ “ศาลรัฐธรรมนูญ” พลิกผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จนกระทั่ง “ประธานาธิบดีเคตา” ต้องตัดสินใจปลดองค์คณะผู้พิพากษาศาลรัฐธรรมนูญทั้งหมดเพื่อให้มีกระบวนการสรรหาใหม่
“การพลิกผลเลือกตั้ง” ของศาลรัฐธรรมนูญมาลี คือการสมคบคิดระหว่าง “ผู้นำ” กับ “องค์กรอิสระ” !?!!