เกษตรกรบุรีรัมย์ ร้องดีเอสไอ เอาผิด “ห้างหุ้นส่วน-เจ้าหน้าที่รัฐ”ฉ้อโกงปชช. สูญเงินกว่า200ล.

เกษตรกรบุรีรัมย์กว่า30 คน ร้อง ดีเอสไอ เอาผิด “ห้างหุ้นส่วน-เจ้าหน้าที่รัฐ” ฉ้อโกงปชช. สูญเงินกว่า 200 ล.

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 27 ก.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) น.ส.ดวงพร แหวนเพชร ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 บ้านโคกกาง ต.ห้วยหิน อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วยชาวบ้านในพื้นที่อ.โนนสุวรณ ประมาณ 30 คน เดินทางเข้าร้องทุกข์และขอความเป็นธรรมต่อดีเอสไอให้ดำเนินคดีอาญากับห้างหุ้นส่วนจำกัด ดีสิงห์ทวีโชค จำกัด ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนและกลุ่มเษตรกรในอำเภอ รวมถึงทำพยานหลักฐานเป็นเท็จ และปุ๋ยไม่ได้คุณภาพตามที่ระบุในกระสอบปุ๋ยตามโครงการส่งเสริมอาชีพของคนบุรีรัมย์ โดยมีนายณัฐวุธ นิติวรยุทธ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ชำนาญการพิเศษปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าหน่วยบริการประชาชน เป็นผู้รับเรื่อง

น.ส.ดวงพร กล่าวว่า สืบเนื่องจากทางจ.บุรีรัมย์ มีโครงการส่งเสริมอาชีพและจัดซื้อปุ๋ยอินทรีย์ให้กับกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนทั่วทั้งจังหวัด ช่วงระหว่างปี 2555-2558 ก่อนนำมาแจกจ่ายฟรีให้กับสมาชิกฯ และไม่เคยมีปัญหามาก่อน กระทั่งเมื่อเดือน พ.ค. 2558 เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรกรอำเภอโนนสุวรรณ ได้เรียกประชุมกลุ่มแม่บ้านฯ พร้อมให้จัดทำโครงการเพื่อขอเสนอรับเงินอุดหนุนผ่าน สำนักงานเกษตรกรอำเภอโนนสุวรรณ ส่งต่อ องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) บุรีรัมย์ แล้วส่งไปยัง ผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อให้อนุมัติโครงการดังกล่าว

S__8462428

น.ส.ดวงพร กล่าวต่อว่า ต่อมาเดือน มิ.ย. 2558 กลุ่มแม่บ้านฯได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรกรอำเภอโนนสุวรรณ ให้ไปทำสัญญาสั่งซื้อปุ๋ยกับห้างหุ้นส่วนจำกัด ดีสิงห์ทวีโชค จำกัด โดยไม่ทราบรายละเอียด จากนั้น ได้มีรถบรรทุกนำปุ๋ยมาส่งมอบให้กับกลุ่มแม่บ้านฯในแต่ละหมู่บ้าน ซึ่งการส่งมอบปุ๋ยก็จะมีเจ้าหน้าที่จากบริษัทห้างหุ้นส่วนนำเอกสารมาให้กลุ่มแม่บ้านฯ ลงชื่อในใบสั่งซื้อและรับปุ๋ย โดยอ้างว่าจะนำไปส่งให้ทาง อบจ. บุรีรัมย์ เพื่อรับเงินตามจำนวนที่นำถุงปุ๋ยมาส่งตามงบประมาณประจำปี ต่อมา เมื่อเดือน ต.ค. 2558 บริษัทห้างหุ้นส่วนดังกล่าว ได้ส่งหนังสือมาทวงถามค่าปุ๋ยกับกลุ่มแม่บ้านฯ พร้อมอ้างว่าได้สั่งซื้อปุ๋ยตามจำนวนใบสั่งซื้อตามเอกสารที่ได้เซ็นไป ทางกลุ่มฯจึงได้สอบถามไปยัง อบจ.บุรีรัมย์ พบว่าโครงการยังไม่ได้มีการอนุมัติเงินงบประมาณ เนื่องจาก ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ สั่งชะลอโครงการสืบเนื่องจาก สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้ามาตรวจสอบและให้ผวจ.บุรีรัมย์ ทบทวนการดำเนินโครงการดังกล่าวด้วย

Advertisement

S__8462429

“จากการตรวจสอบพบว่าการกระทำของห้างหุ้นส่วนจำกัด ดีสิงห์ทวีโชค จำกัด เป็นการปกปิดข้อเท็จจริงเพื่อให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สิน คือเงินค่าปุ๋ยจากกลุ่มเกษตรกรที่ลงชื่อในเอกสารใบสั่งซื้อและรับสินค้า รวมทั้งยังมีเจ้าหน้าที่ อบจ.บุรีรัมย์ บางรายเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่รัฐก่อให้เกิดปัญหาการฟ้องร้องที่มีผลกระทบกับประชาชนทั้งจังหวัด ทำให้ได้รับความเสียหายและเดือดร้อนอย่างหนัก มูลค่าความเสียหายร่วม 200 ล้านบาท” น.ส.ดวงพร

น.ส.ดวงพร กล่าวต่อว่า สำหรับวันนี้กลุ่มตนเป็นตัวแทนเกษตรกรจากอำเภอโนนสุวรรณและอำเภอหนองหงส์ เดินทางมาร้องทุกข์กับ ดีเอสไอ เนื่องจากว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดีสิงห์ทวีโชค จำกัด ได้ไปฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับเกษตรกรทั้ง 2 อำเภอที่เซ็นชื่อในใบสั่งซื้อปุ๋ย เรียกค่าเสียหายรวมประมาณ 16 ล้านบาท นอกจากนี้ ในวันที่ 11 ก.ย.59 ศาลแพ่งจังหวัดบุรีรัมย์จะมีคำพิพากษาในคดีดังกล่าวจึงอยากให้ ดีเอสไอ ช่วยตรวจสอบและเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image