ศบค.ชุดเล็กถกเปิดเฟส 6 -ยืด “พรก.ฉุกเฉิน” ยันคำนึงถึงความปลอดภัยอันดับหนึ่ง

ศบค.ปลดล็อกเฟส5 ผับบาร์-โอเกะ-อ่าง 1ก.ค.เปิดแลกกฎเข้ม

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม น.พ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. เปิดเผยว่า การผ่อนปรนมาตรการระยะที่ 6 โดยคณะกรรมการชุดเฉพาะกิจที่มี พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นประธาน ได้พิจารณากรณีต่างๆ อาทิ 1.การรับแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศ เป็นกลุ่มแรงงานที่มีความจำเป็น 2.การแสดงสินค้า 3.กองถ่ายภาพยนตร์ และ 4.นักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่มที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุเฉพาะ เช่น ผู้ถือบัตรอีลิทการ์ด กลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง โดยมีการหารือกันอย่างรอบด้าน และจะนำเข้าสู่ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ภายในกลางสัปดาห์นี้ หรืออย่างช้าไม่เกินวันที่ 24 กรกฎาคมนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ศบค.จะมีการพิจารณาต่อ พ.ร.ก. ฉุกเฉินหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า จะมีการพิจารณาในสัปดาห์นี้ช่วงวันที่ 20-21 กรกฎาคม จะเป็นการหารือของ ศบค.ชุดเล็ก ก่อนการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ เพื่อนำชุดข้อมูลมาพิจารณาในด้านสาธารณสุข ด้านเศรษฐกิจ ด้านความมั่นคง และอีกหลายด้าน

เมื่อถามว่า โรงแรมที่เป็นสถานกักกันโรคทางเลือก (Alternative State Quarantine : ASQ) ทั้ง 22 แห่งเต็มแล้ว หากมีผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ ต้องไปพักที่ใดบ้าง นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณประชาชนที่อยากลดภาระของภาครัฐ ที่จัดโรงแรมระดับ 3 ดาวในการจัดเป็นสถานกักกันโรคฯ แต่สำหรับผู้ที่ต้องการอยู่ในโรงแรมที่ดีกว่า มีศักยภาพที่จ่ายได้ ขณะนี้มีผู้เข้าจองจำนวนมากและเต็มแล้ว ที่ประชุมศบค.ชุดเล็กได้หารือว่ามีผู้เดินทางเข้าประเทศไทย รวมถึงคณะทูต เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเดินทางเข้ามาหลายร้อยคนต่อวัน จึงมีความต้องการเข้าพักสูงขึ้น เบื้องต้นจะแก้ไขโดยใช้สถานกักกันโรคของรัฐ (State Quarantine : SQ) ยังมีห้องว่างกว่า 100 ห้อง จะให้คนกลุ่มดังกล่าวเข้าพักและต้องจ่ายเงินเอง

“เป็นหน้าที่ที่จะต้องหาห้องพักแบบทางเลือก หรือ ASQ เพิ่มอีกกว่าพันห้อง ตอนนี้มีโรงแรมระดับสูง รวมถึงโรงพยาบาล เอกชน ต้องเข้ามาร่วมมือกัน โดยความแตกต่างของ SQ กับ ASQ คือ ASQ จะเป็นโรงแรมระดับสูงขึ้น มีเจ้าหน้าที่ของ รพ.เอกชน เข้ามาร่วมมือกัน แต่ SQ เป็นโรงแรมที่ดีในระดับหนึ่ง และมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของภาครัฐเข้าไปดูแล โดยจะต้องเพิ่มทั้ง 2 แบบ โรงแรมใดที่พร้อมจะเข้ามาเป็น ASQ และ SQ สามารถติดต่อมายัง ศบค.ได้ หรือที่เว็บไซต์ hsscovid.com หรือที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) จะได้แบ่งเบาภาระงบประมาณของรัฐ” นพ.ทวีศิลป์กล่าว

Advertisement

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงกรณีมีข้อสังเกตว่ามีการนำเข้าผู้ติดเชื้อมาจากต่างประเทศ เพื่อสกัดความเคลื่อนไหวทางการเมืองว่า สิ่งที่เรานำเข้ามาคือคนไทย และผู้ที่เกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติที่จะต้องเข้ามาปฏิบัติภารกิจในเมืองไทย เพื่อให้กิจการ/กิจกรรมกลับมาเป็นปกติอย่างที่ประชาชนอยากเห็น มาตรการระยะที่ 1-5 เดิมทีไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติเข้ามา ยกเว้นคนไทยที่มาจากต่างประเทศ แต่ในตอนนี้คือระยะผ่อนคลายเพื่อให้เศรษฐกิจกลับมา มีการให้คนต่างชาติเข้ามาได้บ้าง ไม่ได้มีเจตนานำเชื้อจากต่างประเทศเข้ามาเติม แต่เป็นมาตรการตามที่เราจะนำคนเข้ามา

” การนำคนเข้ามาก็จะมีโอกาสเกิดการนำพาหะที่เป็นคน ก็จะมีโรคติดตัวเข้ามา เรานำคนเข้ามาเพื่อให้มีการประกอบกิจการเพื่อเศรษฐกิจ และเราต้องใส่ระบบของการกักกันโรค เพื่อป้องกัน และทุกอย่างที่เข้ามาตอนนี้อยู่ในระบบที่เราควบคุมได้ ข้อต่อที่หลวมไม่มีอีกแล้ว ทุกข้อต่อจะต้องเข้ามาในสถานที่กักกันของรัฐทุกคน” นพ.ทวีศิลป์กล่าว

เมื่อถามว่า มีการชั่งน้ำหนักอย่างไรระหว่างความปลอดภัยของคนในประเทศกับเศรษฐกิจ ในการนำชาวต่างชาติเข้ามาประเทศไทย นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า มีความชัดเจนมาโดยตลอดว่ายึดถือความปลอดภัยของคนไทยเป็นอันดับที่หนึ่ง และกิจกรรมที่จะนำเข้ามาจะต้องปราศจากโรค มาตรการแต่ละระยะ กว่าจะคลอดออกมาต้องมีช่วงเวลา ต้องเรียนรู้และพิจารณาจากความปลอดภัยของคนไทยเป็นอันดับแรก ส่วนผลกระทบเศรษฐกิจก็ต้องคิดเป็นลำดับถัดมา ซึ่งมีความสำคัญต่อปากท้องของประชาชน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image