เหยี่ยวถลาลม : ความสิ้นหวัง
เชื่อว่าถึงเวลานี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คงจะไม่สุขสบายทั้งกายและใจ
“ประยุทธ์” กับพวกทำผิดมาตั้งแต่แรก จากนั้นก็รั้น ดั้นด้นเดินทางผิดต่อไปไม่คิดถอยหลังกลับ
ขอเวลาอีกไม่นาน…ความสุขจะคืนกลับมา…จะปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง…คนจนจะหมดประเทศในปี 2561
ทุกถ้อยคำล้วนอำพราง !
“กติกา” ที่กลายเป็น “กติกู” น่าเชิดชูตรงไหน ?
องค์กรอิสระก็เป็น “สระ-อวย” ทั้งขุมทรัพย์และอำนาจล้นหลามแต่ในหมู่พวกพ้องบริวาร
“ประยุทธ์” กับพวกเบิกบานมา 6 ปี แต่สำหรับประชาชนรากหญ้าถึงชนชั้นกลางหน้าซีดเซียว ไม่มีอะไรดีขึ้นสักด้านเดียว ราคาพืชผลเกษตรเรือกสวนไร่นายางพาราตกต่ำจนหาที่สุดมิได้ การค้าการขายก็ฝืดเคืองมาตั้งแต่ก่อนหน้าโควิด-19 จะมาเยือน
อับจนหนทาง สิ้นหวังจนถึงขั้นที่เวลานี้แม้แต่เห็บหมัดยังกระโดดหนีจากที่ซึ่งเคยเกาะอาศัยได้เลี้ยงชีพ
“คน” ไม่เชื่อ “คน” ว่าจะมีศักยภาพหรือความสามารถในการปัดเป่าทุกข์หยิบยื่นสุขให้แก่กันได้ ต้องหันไปพึ่งพาต้นไม้ใบหญ้า ก้อนหิน จอมปลวกหรือสารพัดสัตว์เพื่อต่อลมหายใจแห่งความหวัง
ทั้ง “ระบบ” และ “กลไก” อำนวยความยุติธรรมก็ล้มละลาย กลายเป็นเพียง “เครื่องมือ” ใช้ประหัตประหารผู้ขวางทาง
จะว่าไปแล้ว “ประยุทธ์” ก็น่าจะรู้ว่า “เวลามีจำกัด” จึงได้บอกแต่แรกว่า “ขอเวลาไม่นาน” แต่เอาเข้าจริงๆ กลับใช้เวลาตระเตรียมความได้เปรียบในการเลือกตั้งทั่วไปนานเกินไป
กระทั่งคลอด “กติกา” ที่พวกเดียวกันเรียกว่า “รัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีไซน์มาเพื่อพวกเรา” บัญญัติให้มี “250 ส.ว.” เป็น “250 เสียง” ที่สามารถ “เลือกนายกรัฐมนตรี” ได้เท่าเทียม “เสียง” ของผู้แทนราษฎร “ประยุทธ์” ถึงมั่นใจว่าไปต่อ
พรรคซ้อนพรรค อำนาจรัฐซ้อนอำนาจรัฐ ยอกย้อน แยบยล จนในที่สุดเด็กๆ จับได้ไล่ทัน จึงลุกขึ้นเรียกร้อง “ร่างรัฐธรรมนูญใหม่-ยุบสภา-หยุดคุกคามประชาชน”
แทนที่จะมีเมตตาโอบอ้อมอารี รับฟังเสียงลูกหลานด้วยเหตุผล กลับประพฤติตนเป็น “อันธพาล” งัดเอามุขเดิมๆ “ขวาพิฆาตซ้าย” สมัยเมื่อ 40 กว่าปีก่อนออกมาใช้คุกคามเด็ก
ไม่หยุดคุกคาม ไม่ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ไม่ยุบสภา !
ผู้เป็นใหญ่ในเวลานี้ไม่ได้นำพาสังคมไทยไปสู่ “ความปรองดอง” ไม่ได้ยอมรับความแตกต่างหลากหลาย
บรรยากาศเต็มไปด้วย “การปองร้าย”-ขอให้ระมัดระวัง !?!!