ชาวบ้านลุกฮือแจ้งจับชายกว้านซื้อที่ดินให้นายทุน ก่อนออกอุบายฮุบเงินเชิดหนี
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านในเขต อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ตกเป็นผู้เสียหายหลายราย หลังถูกชายแปลกหน้ามาเปิดห้องเช่าที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในต.แวง อ.สว่างแดนดิน เมื่อช่วงกลางเดือนก่อน และตีสนิทคนในพื้นที่ อ้างว่านายทุนต้องการหาซื้อที่ดินในงบ 150 ล้านบาท เพื่อนำไปเกร็งกำไรแต่งตัวพูดจาดูน่าภูมิฐานจนทำให้ชาวบ้านหลงเชื่อ เพราะแต่ละคนมีภาระหนี้สินและจำเป็นต้องนำไปใช้จ่ายจึงบอกต่อญาติพี่น้องที่ต้องการขายที่ดินจนรวมกันได้กว่า 800 ไร่
ต่อมาชายคนดังกล่าวได้ออกอุบายสำหรับคนที่มีที่ดินแต่ยังติดปัญหาในการนำไปจำนองยังสถานบันการเงิน โดยบอกว่า มีนายทุนใหญ่อยู่เบื้องหลังจะไปไถ่โฉนดที่ดินให้ก่อน แต่ขอคิดค่าหัวคิวในอัตราร้อยละ 2 บาท เช่น ใครติดจำนอง 100,000 บาท ก็ต้องจ่ายให้ชายคนดังกล่าว 2,000 บาท ซึ่งแต่ละคนส่วนใหญ่ติดจำนองเกือบหมดและต้องการขายที่จริงๆ เพราะชายคนดังกล่าวให้ราคาซื้อสูง 70,000-100,000 บาทต่อไร่ ยิ่งโน้มน้าวให้พากันหาเงินไปจ่ายให้ชายคนดังกล่าวกันหลายคน
แต่ต่อมาชายคนดังกล่าว จู่ๆ ได้หายจากห้องพัก หลังจากได้เงินจากเหยื่อกว่า 20 ราย รวมเงินกว่า 100,000 บาท แต่หนึ่งในผู้เสียหายรายหนึ่งยังติดต่อผ่านทางไลน์กับชายคนดังกล่าวได้อยู่ โดยชายคนดังกล่าวบอกว่ากำลังรวบรวมเรื่องส่งไปให้เลขานายทุน เพื่อจะกลับมาจ่ายเงินจำนวนร้อยละ 30 ของราคาซื้อ จากนั้นก็พยายามบ่ายเบี่ยง จนติดต่อได้บ้างไม่ได้บ้าง คิดว่าถูกหลอกอย่างแน่นอน จึงรวบรวมหลักฐานที่มีทั้งภาพถ่ายการโอนเงินเข้าบัญชี การสนทนาผ่านไลน์เข้าแจ้งความที่ สภ.สว่างแดนดิน และ สว.แวง ในพื้นที่เกิดเหตุ
นายปิยะ คำชา อายุ 51 ปี ชาวบ้านสร้างดู่ ต.แวง อ.สว่างแดนดิน กล่าวว่า ตนตกเป็นหนึ่งในผู้เสียหายแต่ละคนสูญเงินตั้งแต่ 3,000-25,000 บาท โดยต้องกู้หนี้ยืมสินมา บางคนเอาเบี้ยพิการหนำซ้ำยังป่วยเป็นมะเร็งยังต้องลำบากหาเงินมาจ่ายก็มีเดือดร้อนกันไปหมด อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ครั้งนี้จะสืบทราบจนรู้ว่าเป็นใครมาจากไหนและนำหลักฐานส่งมอบให้ตำรวจแล้ว เพื่อแจ้งความนำตัวมาดำเนินคดีให้ได้ พร้อมกับฝากเตือนพี่น้องประชาชนทุกคนที่เจอพฤติกรรมการมากว้านซื้อที่ดินให้ตรวจสอบให้ดีก่อน
จากรายงานเพิ่มเติมพบว่าพฤติกรรมชายดังกล่าวทราบว่าทางพื้นที่ จ.นครพนม ก็มีเหยื่อหลงกลเช่นกันสูญเงินไปเกือบ 400,000 บาท และคาดว่าอาจจะยังคงไปลงมือก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวในพื้นที่ระแวกภาคอีสานจึงฝากเตือนไว้ด้วย
