เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2563 นายชาติชาย ตาหมี่ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลสบป่อง อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยราษฎรชนเผ่าประกอบด้วยไทยใหญ่ ลีซอ มูเซอร์ดำ มูเซอร์แดง และประชาชนพื้นราบ 4 ตำบลจำนวน กว่า 1,000 คน ได้รวมตัวกันที่ข้างวัดสบป่อง อ.ปางมะผ้า เพื่อเดินทางไปประท้วง ขับไล่นายจรูญ สร้อยจิต นายอำเภอปางมะผ้า ที่ว่าการอำเภอปางมะผ้า จากนั้นเวลา 14.00 น. กลุ่มชาวบ้านและแกนนำได้เดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อยืนหนังสือข้อเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งนี้เนื่องจากที่ผ่านมาเจ้าหน้าป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปท.) ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง 39 โครงการ ปรากฏว่ามีการทุจริตก่อสร้างกล่องเกเบี้ยน เพื่อเป็นพนังกั้นดินชายฝั่งในพื้นที่ ต.ถ้ำลอด ประกอบกับมีความขัดแย้งสะสมระหว่างนายอำเภอกับผู้นำท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นกำนัน สารวัตรกำนัน,ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำปกครองส่วนท้องถิ่น ดูถูกเหยียดหยามกลุ่มชาติพันธุ์ และไม่ให้ความเป็นธรรมกับราษฏร ในพื้นที่มานาน ส่งผลให้มีการรวมตัวเพื่อขับไล่นายอำเภอ
นายชาติชาย ตาหมี่ แกนนำกลุ่มชาวบ้าน กล่าวว่า ในข้อเรียกร้องที่เป็นหนังสือยื่นให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการ มี 3 ข้อ คือ 1.ให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบโครงการภัยแล้ง ปี 2562 และโครงการอื่นๆ ตั้งแต่นายอำเภอปางมะผ้ามาดำรงตำแหน่ง ว่ามีการทุจริตหรือไม่ 2.ให้ตรวจสอบความร่ำรวยของนายอำเอภปางมะผ้า และ ผู้รับเหมาที่รับงานก่อสร้างตลอดจนถึงผู้เกี่ยวข้องตามโครงการทั้งหมด 3.ให้ตรวจสอบพฤติกรรมของนายอำเภอ ที่ชอบใช้อำนาจข่มเหงรังแกประชาชน และข้าราชการ ผู้นำชุมชน ที่มีความเห็นแตกต่าง และไม่ทำตามคำสั่งที่ไม่ชอบหรือไม่เกี่ยวข้องกับงานในหน้าที่ และให้ตรวจสอบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมมีภรรยาอยู่แล้วแต่ไปมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ 4.ให้นายอำเภอปางมะผ้า และนายกมลกฤษฏ์ ธิวงค์ ท้องถิ่นอำเภอปางมะผ้า ออกจากพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง เพราะน่าเชื่อว่ามีการทุจริตโครงการของรัฐ เรงว่าจะมีการข่มขู่พยานและทำลายหลักฐาน
นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน หลังจากเดินทางมารับหนังสือข้อร้องเรียนแล้ว กล่าวเปิดเผยว่า จะรีบดำเนินการตั้งคณะกรรมการเข้าตรวจสอบตามข้อร้องเรียนของชาวบ้านให้เร็วที่สุด เพราะเป็นเรื่องความเดือดร้อนและความขัดแย้งระหว่างผู้บริหารกับชาวบ้านและยังมีเรื่องของโครงการแก้ปัญหาภัยแล้งและความยากจนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยจะต้องรีบดำเนินการพื่อให้ปัญหาได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน